กรุงเทพฯ 6 ก.ค.- กระทรวงคมนาคมเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทาง
ขากลับของประชาชนทุกภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากต่างจังหวัดเข้าสู่กรุงเทพฯ
พร้อมทั้งปรับแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยเพิ่มเติม
ภายหลังพบว่ามีปริมาณการเดินทางทุกระบบสูงกว่าประมาณการ
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าสถานการณ์การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล ระหว่างวันที่ 3 – 5 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา (ข้อมูล ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2563 เวลา 08.30 น.) พบว่า
มีประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 5,570,909 คน-เที่ยว
ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล มีปริมาณจราจรเข้า – ออกกรุงเทพฯ 7,441,758 คัน และเกิดอุบัติเหตุบนโครงข่ายถนนของกระทรวงคมนาคม 239 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 36 ราย ได้รับบาดเจ็บ 252 ราย โดยเกิดขึ้นบนถนนที่เป็นทางตรงมากที่สุด คิดเป็น 57.81% รถปิคอัพเกิดอุบัติเหตุสูงสุด คิดเป็น 37.97%
สาเหตุของอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากขับรถเร็วเกินกำหนด คิดเป็น 67.78% และ จ.ชลบุรี เกิดอุบัติเหตุสูงสุด จำนวน 17 ครั้ง
จากข้อมูลสถิติดังกล่าวพบว่า
ภาพรวมการเดินทางของทุกระบบมีจำนวนผู้เดินทางสูงกว่าที่ประมาณการ
โดยเฉพาะการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ส่งผลให้ถนนสายหลักที่ออกจากกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัดบางช่วงเกิดปัญหาการจราจรติดขัด
และคาดว่าวันที่ 7 กรกฎาคม 2563
ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของวันหยุดจะมีปริมาณเดินทางขากลับสูงกว่าที่ประมาณการไว้
จึงได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรับแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้สอดคล้องกับปริมาณการเดินทางกลับของประชาชน
ทั้งทางถนน ทางราง ทางน้ำ ทางอากาศ
โดยกรมทางหลวงได้ร่วมกับกองทัพอากาศใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน)
ในการสำรวจสภาพการจราจรบนเส้นทางบริเวณทางต่างระดับสระบุรี ถนนมิตรภาพ
และถนนสายเอเชีย เพื่อควบคุมและสั่งการให้การบริหารจัดการจราจรมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นด้วย
นอกจากนี้
ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท
ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเคร่งครัด
เน้นสุขลักษณะและความปลอดภัยของทั้งผู้ปฏิบัติงานให้บริการและผู้โดยสารด้วยมาตรการเว้นระยะห่าง
(Social Distancing) ทั้งภายในรถโดยสารและที่นั่งคอยภายในสถานีฯ
ตรวจวัดอุณหภูมิของผู้โดยสารต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส
ควบคุมการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ให้ผู้โดยสารลงทะเบียนเช็คอิน –
เช็คเอาท์ผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ทุกครั้งที่ใช้บริการและที่สถานีฯ
กรณีที่ไม่สามารถสแกน QR Code ได้ ให้กรอกแบบฟอร์ม ต.8-คค จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ให้บริการแก่ผู้โดยสาร
ทำความสะอาดยานพาหนะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทั้งก่อนและหลังการให้บริการเป็นประจำ
สำหรับการให้บริการภายในสถานีขนส่ง ท่าอากาศยาน สถานีรถไฟ สถานีรถไฟฟ้า
และท่าเรือโดยสารทุกแห่ง
ได้เน้นย้ำให้ทำความสะอาดสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคารด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
โดยเฉพาะจุดที่สัมผัสบ่อยครั้ง
รวมทั้งได้ติดตั้งที่กั้นแผ่นใสบริเวณเคาน์เตอร์ระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและผู้ใช้บริการด้วย.-สำนักข่าวไทย