รัฐสภา 2 ก.ค.- นายกฯ สั่งคมนาคมศึกษาเส้นทางใหม่ เตรียมเปลี่ยนแปลงระบบคมนาคมทั่วประเทศ ไม่ทับเส้นทางเดิม ขอพรรคการเมืองร่วมมือเพื่อประโยชน์ประชาชน ยันโปร่งใส เป็นธรรม สุจริต
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จนถึงช่วงเย็นนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายท้วงติงว่า มีส.ส.ฝ่ายรัฐบาลอยู่ในห้องประชุมน้อย ทั้งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเข้าร่วมรับฟังการอภิปราย ตนไม่ได้ตั้งใจจะขอให้นับองค์ประชุม เพราะมองว่ากฎหมายงบประมาณจำนวน 3.3 ล้านล้านบาทจะเป็นเครื่องมือของรัฐบาลนำไปใช่ทำงาน ทำให้นายวิรัช รัตนเศษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ลุกขึ้นชี้แจงว่า ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลตกลงเวลากันแล้ว และไม่อยากให้บรรยากาศตึงเครียดระหว่าง 2 ฝ่ายเกิดขึ้น
นายเทพไท เสนพงษ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่ารู้สึกผิดหวังการจัดการระบบคมนาคมขนส่งในพื้นที่ภาคใต้ ที่ทำให้เสียโอกาสการพัฒนาโครงสร้างพื้นที่ฐานคมนาคม และจากสถิติรายงานคนภาคใต้จนที่สุดในประเทศ จึงอยากให้รัฐบาลเอาใจใส่และทุ่มงบประมาณในการพัฒนาภาคใต้มากกว่านี้ ทำให้นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงว่า รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลคนทุกภาค ทุกกลุ่มจังหวัด เพราะฉะนั้นจะต้องพิจารณาจากฐานข้อมูลเดิมว่าจะพัฒนาอย่างไร และบรรจุอยู่ในยุทธศาสตร์
“ผมเห็นใจและสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาเรื่องนี้แล้ว ยืนยันว่าจำเป็นต้องศึกษารายละเอียดก่อนว่าขั้นตอนแรกจะดำเนินการอย่างไร จะสามารถต่อเส้นทางไหนได้บ้าง เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนหรือลดระยะทางลงไป จากนั้นจะพัฒนาไปสู่การทำเส้นทางตรง ซึ่งหลายอย่างต้องอาศัยพื้นที่ และศึกษารายละเอียดอีกครั้ง ทั้งหมดนี้กระทรวงคมนาคมได้รับเรื่องนี้ไปแล้ว ขอให้สบายใจได้ วันนี้ตั้งงบประมาณศึกษาโครงการต่างๆ เหล่านี้ หากเป็นไปได้ก็จะเร่งรัดให้เร็วขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้ คือเราได้พัฒนาพื้นที่ภาคใต้มากกว่าช่วงที่ผ่านมาพอสมควร ผมเห็นใจคนภาคใต้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าส่วนเรื่องสนามบินจังหวัดตรัง จัดสรรงบประมาณแล้ว รัฐบาลฟังจากเสียงประชาชนที่จะเห็นชอบร่วมกัน พัฒนาจังหวัดตรัง ซึ่งรัฐบาลนี้ต้องดูแลแบบนี้ ยืนยันไม่ได้ขอเพื่อส่วนตัวหรือใคร ไม่มีให้ใครอยู่แล้ว แต่จะฟังความคิดเห็นส่วนรวมว่าต้องการอะไร ทั้งหมดจะถูกบันทึกอยู่ในแผนยุทธศาสตร์
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจะเปลี่ยนแปลงระบบคมนาคมขนส่งใหม่ทั่วประเทศ ในระยะต่อไป ขณะนี้กำลังให้กระทรวงคมนาคมศึกษาผนการเชื่อมโยงส้นทางคมนาคมสายใหม่ตะวันตกตะวันออก เหนือใต้ กลางอีสานที่ไม่ทับเส้นทางเดิม แต่จะต้องศึกษาหาพื้นที่ให้ได้ เมื่อผ่านการอนุมัติแล้ว กระทรวงคมนาคมจะเสนอให้ประชาชนทราบต่อไป โดยจะก่อสร้างพร้อมกัน เพราะเป็นการบริหารงานแบบบูรณาการ ซึ่งขั้นตอนต่าง ๆ จะเสนอให้ประชาชน สังคม และสื่อมวลชนทราบต่อไป เป็นการขยายเส้นทางใหม่ ๆ ขยายเมืองให้ประชาชน เพราะขณะนี้เกิดการกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ ซึ่งจะทำให้เกิดการเคลื่อนย้าย เกิดการสร้างงานอาชีพใหม่ตามเส้นทางคมนาคมที่กำลังจะก่อสร้าง จึงขอความร่วมมือกับทุกพรรคให้ความร่วมมือกับรัฐบาล หากรักประชาชนจริง ยืนยันจะดำเนินการให้เกิดความโปร่งใส่ เป็นธรรมและสุจริต
“ทั้งหมดนี้คือยุทธศาสตร์ที่วางไว้ แต่เรื่องการดำเนินการ เป็นเรื่องของแผนงานโครงการสำคัญที่ต้องลงทุน โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่เช่น มอเตอร์เวย์ โดยรัฐร่วมลงทุนกับเอกชน ถือว่าเป็นวิธีการใหม่ หากใช้วิธีการแบบเดิม ๆ โครงการเหล่านี้อาจจะยังไม่เกิด วันนี้โครงการต่าง ๆ เสนอเข้ามาแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการแปรญัตติในชั้นกรรมาธิการ ซึ่งต้องลำดับใจความสำคัญของแต่ละโครงการ แต่หากโครงการใดทำไม่ได้หรือไม่พร้อม และผ่านการอนุมัติงบประมาณไปแล้ว ก็ปรับโยกงบประมาณไปให้โครงการอื่น นี่คือหลักการของการทำงานรัฐบาล เพื่อให้เป็นธรรมและสุจริต เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารงานของส่วนราชการด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย