คดีพลิก! จำนนต่อหลักฐาน ร.ต.อ. รับสารภาพทำปืนลั่นใส่ภรรยาดับ

กทม. 22 มิ.ย. – หลังเกิดเหตุภรรยารองสารวัตรสืบสวน สน.วังทองหลาง เสียชีวิตปริศนาในบ้านพักย่านบางกะปิ ท่ามกลางความเคลือบแคลงสงสัยของสังคมและคนในครอบครัวว่าเธอยิงตัวเองเสียชีวิตจริงหรือไม่ วันนี้คดีมีความชัดเจนแล้ว เมื่อรองสารวัตรสืบสวนยอมรับ เพราะจำนนต่อพยานหลักฐานสำคัญ 


การเสียชีวิตปริศนาของ น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ ภรรยา ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สน.วังทองหลาง ที่เบื้องต้นสามีระบุว่า เธอใช้อาวุธปืนประจำกายของสามียิง เข้าที่ขมับซ้าย เสียชีวิตในบ้านพักย่านบางกะปิ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา คดีนี้ยังเป็นที่กังขาของสังคม โดยเฉพาะคนในครอบครัวที่ไม่เชื่อว่าลูกสาวจะยิงตัวตาย ยังติดใจข้อสงสัยการเสียชีวิตหลายอย่าง เช่น การใช้อาวุธปืนและบาดแผลที่พบไม่สอดคล้องกัน เพราะผู้ตายถนัดมือขวา แต่สภาพศพพบบาดแผลที่ขมับซ้าย และถือปืนในมือซ้าย ประกอบกับนิสัยส่วนตัวผู้ตายเป็นคนมองโลกในแง่บวก มีสติ ไม่เคยเครียดถึงขั้นหาทางออกชีวิตไม่ได้       


วันนี้ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านเกิดเหตุ ในหมู่บ้านเสนาวิลล่า 88 ย่านแฮปปี้แลนด์ พบบ้านถูกปิดเงียบ มีเชือกกั้นที่เกิดเหตุผูกขวางไว้ ห้ามคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในบ้าน


ขณะที่เพื่อนบ้าน ให้ข้อมูลตรงกันว่า สามีภรรยาคู่นี้เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ได้ไม่นาน แต่เคยพูดคุยเป็นการส่วนตัว ฝ่ายหญิงเคยเดินออกมาซื้ออาหารที่หน้าปากซอย ก็พบว่าเป็นคนร่าเริง อัธยาศัยดี  

แม้คดีนี้จะไม่มีประจักษ์พยาน แต่จากการสอบปากคำพยานแวดล้อม และพยานหลักฐานอื่นๆ โดยเฉพาะรายงานผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างไม่เป็นทางการ ที่เพิ่งได้มาล่าสุด ระบุว่าพบคราบเขม่าดินปืนทั้งที่มือของผู้ตาย และมือของ ร.ต.อ.ทรงกลด สามี จึงเป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ชัดได้ว่า น.ส.พิมชฎาพร ไม่ได้ฆ่าตัวตาย

ตำรวจจึงเชิญตัว ร.ต.อ.ทรงกลด กลับมา สอบเครียดอีกครั้ง จนยอมรับในที่สุดว่า ก่อนเกิดเหตุมีปากเสียงกับภรรยาอย่างรุนแรงจากปมปัญหาในครอบครัว จากนั้นถืออาวุธปืนลงมาด้านล่างเพื่อเคลียร์ปัญหากับภรรยา โดยเอาปืนจ่อที่ขมับขวา แต่ภรรยาเอามือมาปัด จนเกิดการยื้อแย่งปืน กระทั่งปืนลั่น ภรรยาเสียชีวิต       

ร.ต.อ.ทรงกลด ถูกแจ้งดำเนินคดีในข้อหาหนัก คือ ฆ่าผู้อื่น และจะถูกควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญารัชดาฝากขังพรุ่งนี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว ขณะที่ต้นสังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบสอบวินัยร้ายแรง. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งความผู้ว่าสตง.

2 พิธีกรดังเข้าแจ้งความกล่าวโทษผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.ถล่ม

สองพิธีกรชื่อดัง เข้าแจ้งความกล่าวโทษ ผู้ว่าฯ สตง. และอดีตผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ มองอาจไม่ชอบมาพากล หวั่นเวลาผ่านไปเอาผิดใครไม่ได้

ก้อนปูนตกใส่รถ

กทพ. แจงก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง มีคนโยนลงมาจากสะพานลอย

กทพ. ชี้แจงกรณี ก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง ไม่ได้เกิดจากการกระเทาะของโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถี แต่มีผู้โยนลงมาจากสะพานลอย จ่อประสานตำรวจตามตัวดำเนินคดี

ปล่อยกู้ดอกโหด

บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด 1,825% ต่อปี

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้เฉพาะผู้หญิง คิดดอกเบี้ยมหาโหดร้อยละ 1,825 ต่อปี ไม่จ่ายโดนข่มขู่ประจานไม่เลือกหน้า

ข่าวแนะนำ

แอนแทรกซ์

สธ.เผยติดเชื้อแอนแทรกซ์โอกาสตายสูงถึง 80%

สธ. เผยแอนแทรกซ์ เป็นโรคติดต่อร้ายแรง โอกาสเสียชีวิตสูงถึง 80% ส่วน จ.เลย ชาวบ้านพบวัวตายตัว สำนักงานปศุสัตว์ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น คาดกินเชือกไนล่อนมัดฟางเข้าไป ทำให้อุดตันทางเดินอาหาร ไม่น่าเกิดจากโรคระบาดสัตว์ เนื่องจากวัวในฝูงที่เหลืออยู่ ยังมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี

ค้นหาร่างใต้ตึกถล่ม

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ ทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง.หรือไม่

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง. หรือไม่ ปัจจุบันการทำงานบริเวณทางเชื่อมด้านอาคารจอดรถด้านหลังยังลงไปไม่ถึงพื้นของชั้นใต้ดิน

หอพักรังสิต

“จิราพร” ส่งทีมตรวจเข้มหอพักย่านรังสิต หลังร้องถูกเจ้าของเอาเปรียบ

“จิราพร” ส่งทีม สคบ. ร่วมกับตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจเข้มหอพักย่านรังสิต หลังพบผู้ร้องเรียนถูกเจ้าของเอาเปรียบ

ภาคใต้ฝนเพิ่ม ส่วนไทยตอนบนยังมีฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง

กรมอุตุฯ เตือนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง ยังคงมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง อากาศร้อนตอนกลางวัน กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่