ซิดนีย์ 12 มิ.ย.- รัฐบาลกลางออสเตรเลียเพิ่มการผลักดันให้ผู้นำท้องถิ่นเปิดพรมแดนระหว่างรัฐภายในประเทศ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบหนักจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด
แหล่งข่าวเผยว่า นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันผลักดันเรื่องนี้ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเรื่องโควิด-19 เดือนที่แล้วเขาประกาศแผนสามขั้นในการยกเลิกมาตรการปิดเมืองภายในเดือนกรกฎาคม เพื่อเปิดทางให้แก่การท่องเที่ยวในประเทศ และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศโดยไม่ต้องมีการกักตัว 14 วันหรือที่เรียกว่า travel bubble กับนิวซีแลนด์ แต่การปฏิบัติตามแผนของรัฐบาลกลางขึ้นกับการตัดสินใจของมุขมนตรีระดับรัฐและดินแดน บางแห่งมาจากพรรคการเมืองฝ่ายค้านและเห็นไม่ตรงกันว่าการยกเลิกมาตรการจำกัดระหว่างรัฐจะมีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด ด้านนายมาเทียส คอร์มานน์ รัฐมนตรีคลังให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์สกายนิวส์วันนี้ว่า ควรเปิดพรมแดนระหว่างรัฐ เพราะธุรกิจท่องเที่ยวในรัฐควีนส์แลนด์อยากให้นักท่องเที่ยวในรัฐนิวเซาท์เวลส์ข้ามพรมแดนขึ้นไปท่องเที่ยว
รอยเตอร์ชี้ว่า การชุมนุมเรียกร้องสิทธิคนผิวดำหรือ Black Lives Matter ทำให้ทยอยเปิดเมืองของออสเตรเลียมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันกล่าวเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า การชุมนุมเมื่อสัปดาห์ก่อนที่มีคนมาร่วมเป็นจำนวนมากทำให้การเปิดพรมแดนระหว่างรัฐล่าช้ายิ่งขึ้นไปอีก การชุมนุมในออสเตรเลียเน้นเรื่องการปฏิบัติไม่ดีต่อชนพื้นเมือง รวมถึงเรื่องที่ชนพื้นเมืองเสียชีวิตระหว่างถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว โดยในวันนี้จะมีการชุมนุมที่นครซิดนีย์ แม้ไม่ได้รับอนุญาตจากทางการที่ขู่จะปรับ ณ ที่ชุมนุมและจับกุม ส่วนในวันเสาร์อาทิตย์นี้จะมีการชุมนุมทั่วประเทศ.- สำนักข่าวไทย