ต่างประเทศ 12 มิ.ย. – ยุโรปอาจเผชิญโควิด-19 ระบาดระลอก 2 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ต้นตอจากผู้ประท้วงหลายหมื่นคนรวมตัวกันบนท้องถนนในเมืองใหญ่ทั่วยุโรป เพื่อแสดงพลังต่อต้านการเหยียดผิว
นายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ แถลงว่า ประชาชนไม่ควรเข้าร่วมการรวมตัวของคนหมู่มากเกินกว่า 6 คน รวมถึงการชุมนุมต่างๆ ในช่วงนี้ด้วย เข้าใจว่าประชาชนอยากแสดงออกว่าอะไรที่พวกเขาใส่ใจ แต่มันมีไวรัสชนิดหนึ่งที่ขโมยการติดต่อทางสังคมไปจากเรา โดยไม่เลือกว่าอะไรคือเหตุผลของการชุมนุม
ขณะที่นายโจเซฟ เคเซซิโอกลู ประธานสมาคมเวชบําบัดวิกฤติแห่งยุโรป กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่า ไม่ยินดีนักที่เห็นกลุ่มผู้ประท้วงยืนติดกันและจับมือกัน แทนที่จะยืนห่างกัน 1 เมตร ระหว่างชุมนุม ทำให้เขาเกรงว่าจะเห็นการระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 ในยุโรปไม่ช้าก็เร็ว
ทั้งนี้ หลายประเทศในยุโรปผ่านจุดสูงสุดของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปแล้ว และค่อยๆ กลับมาเปิดธุรกิจและพรมแดนตามลำดับ หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อชะลอตัวลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ในช่วงหลายวันมานี้ผู้ประท้วงหลายหมื่นคนรวมตัวกันบนท้องถนนในเมืองใหญ่ทั่วยุโรป เพื่อแสดงพลังร่วมต่อต้านการเหยียดผิว หลังการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ขณะถูกตำรวจเข้าควบคุมตัวในเมืองมินนีแอโพลิสของสหรัฐ
ก่อนหน้าการประท้วงรอบนี้ บรรดานักวิทยาศาสตร์คาดว่าการแพร่ระบาดระลอก 2 น่าจะเกิดขึ้นหลังผ่านพ้นฤดูร้อนไปแล้ว แต่การชุมนุมของคนหมู่มากทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป ขณะที่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าปัจจัยต่างๆ ตามฤดูกาลจะส่งผลกระทบต่อโควิด-19 อย่างไร แต่เชื่อกันว่าการที่ผู้คนออกมาใช้ชีวิตกลางแจ้งมากขึ้นอาจช่วยจำกัดการแพร่ระบาด
อย่างไรก็ตาม การออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งของผู้คนจำนวนมากอาจส่งผลในทางตรงกันข้าม หากพวกเขาไม่ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึงการสวมหน้ากากอนามัย.-สำนักข่าวไทย