ทำเนียบฯ 2 มิ.ย.-ครม.เห็นชอบแก้กฎกระทรวง กำหนดสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ปรับสภาพแวดล้อมให้เข้าถึงอาคาร-สถานที่ และใช้ประโยชน์ได้อย่างเท่าเทียม
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคารสำหรับผู้พิการ หรือทุพพลภาพและคนชรา ซึ่งเป็นการแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคารสำหรับผู้พิการ หรือทุพพลภาพ และคนชรา พ.ศ.2548 ให้ครอบคลุมประเภทและขนาดของอาคาร ซึ่งปัจจุบันมีอยู่หลายประเภท และกำหนดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ หรือทุพพลภาพ และคนชรา สังคมไทยขณะนี้มีจำนวนผู้สูงอายุประมาณ 12 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้มเป็น 20.42 ล้านคน ในปี 2583
น.ส.รัชดา กล่าวว่า โดยมีสาระสำคัญ อาทิ กำหนดให้อาคารที่ให้บริการสาธารณะ เช่น โรงมหรสพ หอประชุม โรงแรม สถานศึกษา หอสมุด อาคารประกอบของสนามกีฬากลางแจ้ง หรือสนามกีฬาในร่ม , กำหนดให้สถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล เช่น โรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล , กำหนดให้อาคารที่ทำการของราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ องค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ต้องจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น กำหนดให้มีที่จอดรถยนต์สำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ ทั้งนี้ ที่จอดรถยนต์สำหรับคนพิการและผู้สูงอายุต้องจัดให้ใกล้ทางเข้า-ออกอาคารมากที่สุด มีพื้นผิวเรียบ มีระดับเสมอกัน และมีสัญลักษณ์รูปคนพิการนั่งวีลแชร์ (Wheelchair) อยู่บนพื้นของที่จอดรถ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ได้กำหนดให้มีทางลาด โดยมีความกว้างไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร กรณีทางลาดแบบสวนกันได้ ต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร เป็นต้น อีกทั้งยังกำหนดให้สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องจัดให้มีห้องสุขาสำหรับผู้พิการ หรือทุพพลภาพ และคนชรา ที่เข้าใช้ได้ตลอดเวลาทำการอย่างน้อย 1 ห้อง รวมถึงกำหนดให้โรงมหรสพ หรือหอประชุม ต้องจัดให้มีพื้นที่สำหรับวีลแชร์ อย่างน้อย 2 ที่นั่งต่อจำนวนไม่เกิน 100 ที่นั่ง และเพิ่มขึ้น 1 ที่นั่งต่อจำนวนทุก 50 ที่นั่ง โดยต้องเป็นพื้นราบอยู่ในตำแหน่งที่เข้า-ออกได้สะดวก ตลอดจนกำหนดให้โรงแรมต้องจัดให้มีห้องพักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกชั้น ๆ ชั้นละไม่น้อยกว่า 1 ห้อง สำหรับโรงแรมที่เป็นอาคารชั้นเดียวต้องจัดให้มีห้องพักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่น้อยกว่า 1 ห้องต่อจำนวนห้องพักไม่เกิน 10 ห้อง และเพิ่มขึ้นอีก 1 ห้องต่อจำนวนห้องพักทุก 10 ห้อง โดยต้องอยู่ใกล้บันไดหรือทางหนีไฟ หรือลิฟต์ดับเพลิง และต้องมีสัญญาณเตือนภัยทั้งที่เป็นเสียง แสง และระบบสั่น นอกจากนี้ยังกำหนดให้อาคารชุด หอพัก อาคารอยู่อาศัยรวม ต้องจัดสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง ตลอดจนพื้นที่บริการสาธารณะ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร นอกจากนี้ศาสนสถาน หรือฌาปนสถานอย่างน้อยต้องมีทางลาด หรือลิฟต์ หรืออุปกรณ์ขึ้นลงทางลาดที่ทุกคนสามารถเข้าใช้ได้สะดวก
“ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปรับสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตของคนพิการและผู้สูงอายุ ให้สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ในอาคาร สถานที่ และบริการต่าง ๆ รวมทั้งมีส่วนร่วมกิจกรรมในสังคม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและเสริมสร้างให้คนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำให้สามารถเข้าถึงบริการของรัฐอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย