“อุตตม” แจงเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือ SME

รัฐสภา 28 พ.ค.-รมว.คลัง ชี้แจงเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือ SME เพิ่มเติม นอกจากออก พ.ร.ก. ต้องครอบคลุมผู้ประกอบการที่ไม่เคยกู้เงิน ขณะที่ผู้ว่าการ ธปท. แจงมาตรการทางการเงินช่วยเหลือธุรกิจ SME


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาพระราชกำหนดเกี่ยวกับการกู้เงิน 3 ฉบับ ถึงกรณีการดูแลผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ SME ซึ่งได้รับผลกระทบรุนแรงจากสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะเรื่องเงินทุน ว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินของรัฐ หารือผู้ประกอบการ กำหนดมาตรการออกมา และหลายมาตรการได้นำเสนอออกมา แต่เมื่อสถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอน ก็ต้องมีมาตรการต่อไป เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยกำลังจะออกมาตรการเพิ่มเติม นอกจากการออก พ.ร.ก.ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ เพื่อดูแล SME ที่ยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนธนาคารพาณิชย์ได้เต็มที่ รวมทั้ง SME ที่ยังไม่มีประสบการณ์การกู้เงินกับสถาบันการเงิน

ด้าน นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. ชี้แจงถึงมาตรการทางการเงินช่วยเหลือธุรกิจ SME เพิ่มเติม แบ่งเป็น 4 มิติ คือ 1.ต้องเยียวยาผู้ประกอบการอย่างรวดเร็วและทั่วถึง 2.มาตรการจัดการที่ดำเนินการต้องไม่นำไปสู่ปัญหาของระบบสถาบันการเงิน ซึ่งโชคดีที่ระบบสถาบันการเงินของไทยมีความเข้มแข็ง สามารถใช้เป็นกลไกสำคัญเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ได้ 3.จะต้องไม่สร้างภาระทางการคลังให้กับรัฐบาลและภาษีของประชาชนในอนาคตมากจนเกินควร และ 4.โลกเศรษฐกิจหลังสถานการณ์คลี่คลายจะเปลี่ยนไปมาก วิถีชีวิตประชาชนและวิธีการทำธุรกิจจะเปลี่ยนไป มาตรการทางการเงินจะต้องส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปรับตัวสู่ระบบเศรษฐกิจโลกใหม่หลังโควิด-19


นายวิรไท กล่าวถึงกรอบการดูแลช่วยเหลือ SME ว่า มีมาตรการทางการเงินอย่างน้อย 4 ด้าน คือ 1.ลดอัตราดอกเบี้ย โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายถึง 3 ครั้ง ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นธนาคารกลางแรก ๆ ของโลก ที่ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพื่อตอบสนองสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 จนอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำสุดที่ร้อยละ 0.5 และเสนอลดอัตราเงินนำส่งเพื่อไปชำระหนี้ให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน หรือ FIDF Fee เหลือร้อยละ 0.23 เป็นระยะเวลาชั่วคราว 2 ปี ซึ่งนำไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำสุดในรอบ 17 ปี และปรับวิธีคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ใหม่ โดยคิดเฉพาะงวดที่ผิดนัด ไม่ได้คิดจากเงินต้นที่เหลืออยู่

นายวิรไท กล่าวอีกว่า 2.เลื่อนและลดภาระการชำระหนี้ โดยเลื่อนกำหนดการชำระหนี้ให้กับ SME ที่มีวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาทเป็นการทั่วไปโดยไม่ต้องติดต่อกับสถาบันการเงินก็สามารถเลื่อนการชำระหนี้เงินต้นได้เป็นระยะเวลา 6 เดือน และประสานงานกับธนาคารให้ช่วยเหลือออกมาตรการเพิ่มเติมและเลื่อนกำหนดชำระหนี้ 3-6 เดือน สำหรับสินเชื่ออื่น ๆ เพื่อการทำธุรกิจ เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ ลิสซิ่ง ซึ่งมี SME ที่ได้รับการช่วยเหลือแล้วกว่า 1.1 ล้านราย วงเงินกว่า 2.1 ล้านล้านบาท ที่ได้ประโยชน์ 3.ให้สินเชื่อเพิ่มเติม ให้ผู้ประกอบการที่ขาดสภาพคล่องหรือเห็นความจำเป็นต้องปรับรูปแบบการทำธุรกิจลงทุนเพิ่มให้สอดคล้องกับหลักสุขอนามัย หรือให้สอดรับความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค โดยให้กู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเริ่มดำเนินการวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีลูกหนี้ได้รับสินเชื่อแล้ว 84,000 ราย ยอดเงินกว่า 148,000 ล้านบาท แต่ยังไม่น่าพอใจ เพราะยังมี SME จำนวนมากที่รอสินเชื่อโครงการพิเศษเหล่านี้อยู่ ซึ่งต้องเร่งให้สถาบันการเงินดำเนินการต่อไป

นายวิรไท กล่าวด้วยว่า 4.สนับสนุนให้มีการปรับโครงสร้างหนี้เชิงรุก โดยตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ธนาคารแห่งประเทศไทยออกกฎเกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับการกำกับดูแลสถาบันการเงิน เพื่อเร่งให้สถาบันการเงินปรับโครงสร้างหนี้โดยเร็ว ไม่ต้องรอให้เป็นหนี้เสีย ส่วนกรณีที่เป็นหนี้เสียแล้ว ก็ให้ปรับเกณฑ์การกำกับดูแลเช่นเดียวกัน เพื่อจะทำให้กฎเกณฑ์เรื่องการตั้งวงเงินสำรอง ไม่เป็นอุปสรรคต่อการปรับปรุงโครงสร้างหนี้


ส่วนที่มีสมาชิกตั้งข้อสังเกตว่ามีการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟโลน เฉพาะผู้ประกอบการที่มีความเสี่ยงต่ำ นายวิรไท ชี้แจงว่า ตรวจสอบสถานข้อมูลแล้ว พบว่าร้อยละ 70 เป็นลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงความเสี่ยงสูง พร้อมกันนี้ยังมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนทั่วไป ทั้งเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต การขยายเวลาชำระหนี้โดยไม่เสียเครดิตบูโร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS

“แพทองธาร” นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS ขับเคลื่อนความร่วมมือสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต การพัฒนาคุณภาพชีวิต และความกินดีอยู่ดีของประชาชนในภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ