กรุงเทพฯ 27 พ.ค.-กองปราบสอบปากคำ”พ่อ-แม่” ของปุ๊ก นานกว่า 10 ชั่วโมง คดีของนางสาวปุ๊กที่วางยาลูก 2 คนเพื่อหลอกรับเงินบริจาค เผยหลักฐานยังอาผิดได้แค่คนเดียว
ความคืบหน้าคดีของนางสาวปุ๊กที่วางยาลูก 2 คนเพื่อหลอกรับเงินบริจาค หลังจากเมื่อวานนี้ตำรวจกองปราบปรามเชิญตัวครอบครัวของนางสาวปุ๊กมาสอบปากคำเพิ่มเติมนานกว่า 10 ชั่วโมง
พันตำรวจเอกปทักข์ ขวัญนา ผู้กำกับการ กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า หลังสอบปากคำแล้วเสร็จ ตำรวจได้ให้ครอบครัวของนางสาวปุ๊กกลับบ้านยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำในประเด็นเรื่องพฤติกรรมของนางสาวปุ๊กขณะเลี้ยงดูลูกอยู่ที่บ้าน และเส้นทางการเงินบางส่วน ซึ่งครอบครัวของนางสาวปุ๊กให้ความร่วมมือและให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะเป็นเรื่องในสำนวนคดี
ยืนยันขณะนี้พยานหลักฐานยังเชื่อมโยงไปถึงนางสาวปุ๊กเพียงคนเดียว ยังไม่พบผู้อื่นร่วมกระทำความผิด แต่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และจำเป็นต้องสอบปากคำพยานและรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนสอบใครบ้าง ยังไม่ขอเปิดเผย ต้องพิจารณาสำนวนก่อน รวมถึงพยานหลายคนไม่พร้อมที่จะออกสื่อและมาให้ปากคำ
ส่วนประเด็นเงินที่โอนเข้าบัญชีหมุนเวียนกว่า 15 ล้านนั้น เป็นยอดเงินจำนวนไม่มากทยอยเข้ามา และถูกนางสาวปุ๊กทยอยถอนไปใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง จนมียอดถอนออกเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ
ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอเบื้องต้น ดีเอ็นเอยืนยันความเป็นแม่-ลูก สายเลือดเดียวกันกับน้องอิ่มบุญ แต่ยังต้องรอผลอย่างเป็นทางการเพื่อนำมาประกอบสำนวน พร้อมชี้ผลดีเอ็นเอไม่มีผลกระทบต่อรูปคดี เพราะคดีนี้ไม่เกี่ยวกับใครเป็นบิดามารดาของใคร แต่เกี่ยวกับใครกระทำต่อเด็ก และใครได้รับผลประโยชน์มากกว่า
ส่วนประเด็นที่แม่ปุ๊ก เคยเข้ารับการรักษาอาการป่วยทางจิต เป็นแค่กระแสข่าวแต่จากการตรวจสอบยังไม่พบข้อมูล ซึ่งได้ประสานทีมแพทย์เพื่อเข้าตรวจสอบ และต้องให้แพทย์เป็นคนประเมิน ส่วนตัวมองว่า ไม่ส่งผลต่อรูปคดี เพราะขณะให้การทุกอย่างค่อนข้างปกติ และการตอบคำถามมีสติสัมปชัญะครบถ้วนสมบูรณ์.-สำนักข่าวไทย.-สำนักข่าวไทย