ทำเนียบรัฐบาล 19 พ.ค.-รองโฆษกรัฐบาลเผย ที่ประชุมครม.อนุมัติในหลักการร่างกฤษฎีกายกเว้นการบังคับใช้พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล (บางหมวด) ไปอีก 1 ปี
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานและกิจการที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ โดยมิให้นำบทบัญญัติเฉพาะในหมวด 2 หมวด 3 หมวด 5 หมวด 6 หมวด 7 และความในมาตรา 95 ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้บังคับแก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นหน่วยงานหรือกิจการตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกา ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2563 ถึง 31 พฤษภาคม 2564 อย่างไรก็ตาม ยังคงมีบทบัญญัติให้ผู้ควบคุมข้อมูลต้องจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงดิจิทัลฯกำหนด
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในบัญชีท้าย อาทิ หน่วยงานรัฐ มูลนิธิ สมาคม กิจการด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม การแพทย์และสาธารณสุข การเงินการธนาคาร การท่องเที่ยว เป็นต้น ในกรณีที่มีปัญหาว่าหน่วยงานหรือกิจการใดเป็นหน่วยงานหรือกิจการตามบัญชีท้ายนี้ให้คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้วินิจฉัย” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
น.ส.รัชดา กล่าวว่า ก่อนหน้าการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ประชุมร่วมกับตัวแทนกลุ่มสมาคมและภาคธุรกิจด้านต่าง ๆ อาทิ คณะกรรมการร่วมสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย สมาคมโรงพยาบาลเอกชน สมาคมวินาศภัย และได้รับทราบความไม่พร้อมของภาคเอกชนในการลงทุนเพื่อปรับปรุงกระบวนงานด้านระบบสารสนเทศ และพัฒนาบุคคลากรจำนวนมาก เพื่อให้สอดคล้องกับหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากธุรกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้เกิดการขาดสภาพคล่อง
“เวลานี้มีหลักเกณฑ์และมาตรการกำกับดูแลการให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนที่ยังไม่ได้ประกาศอย่างชัดเจน จึงอาจทำให้หน่วยงานรัฐ เอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไป กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายได้โดยไม่ตั้งใจ รวมทั้งอาจเป็นช่องทางให้ผู้ที่ทุจริตหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ดังนั้น ครม.จึงเห็นชอบในหลักการออกพระราชกฤษฎีกายกเว้นการบังคับใช้พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในบางหมวด เป็นเวลา 1 ปี และแม้จะยกเว้นผู้ควบคุมข้อมูลจำเป็นต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงดิจิทัลฯ กำหนด” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย