ระยอง 15 พ.ค.-หนุ่มสาวระยอง เมา ฝ่าเคอร์ฟิว โมโหควันออกหู ถูก ตร.จับ ชี้หน้าด่ากราด แต่ไม่รอดโดนไปกันคนละ 3 ข้อหา
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น 4 ทุ่มครึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา บริเวณด่านจุดตรวจสะพานเทศบาล 11 ถนนอดุลย์ธรรมประพาส เขตเทศบาลนครระยอง มีหญิงชายหญิงขี่รถ จักรยานยนต์เวสป้าสีขาว ผ่านมาที่ด่านตรวจกวดขันคนฝ่าเคอร์ฟิว ของตำรวจ สภ.เมืองระยอง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจ ฝ่ายชายที่เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ อ้างว่า เพิ่งกลับมาจากบ้านแม่และกำลังจะกลับเข้าบ้านพักซึ่งไม่ไกลจากจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงชี้แจงว่า เกินเวลาเคอร์ฟิว ถือเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกนอกเคหสถาน เนื่องจากไม่จัดอยู่กลุ่มผู้ได้รับการยกเว้น หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ รวมถึงไม่มีหนังสือรับรองการขออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ในการเดินทาง จึงขอจับกุม
ได้ยินเท่านั้น หนุ่มสาวถึงกับควันออกหู พร้อมบ่นทำไมไปคุยกับแม่ไม่ได้ และยิ่งโมโหหนักขึ้นเมื่อถูกพาตัวตำรวจและอาสาช่วยกันคุมตัวขึ้นรถตำรวจเตรียมพาไปที่ สภ.เมืองระยอง ผู้ชายเปิดฉากร่ายยาวด่าทอตำรวจ ส่วนผู้หญิงก็ไม่เบาร่วมวงด้วย
ผู้สื่อข่าวติดตามความคืบหน้าคดีนี้ ทราบว่าภายหลังตำรวจพาทั้งคู่ไปโรงพักและตรวจวัดแอลกอฮอล์ ผลปรากฏว่าฝ่ายชายมีปริมาณแอลกอฮอล์ 147 มิลลิกรัม เกินกว่ากฎหมายกำหนด เบื้องต้นทั้งคู่ถูกแจ้งข้อหาคนละ 3 ข้อหา โดยข้อหาที่เหมือนกันคือ 1.ออกนอกเคหสถานช่วงเคอร์ฟิว โดยไม่ได้รับการยกเว้น หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน 2.ดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่วนข้อหาที่แตกต่างคือผู้ชายโดนข้อหาขับยานพาหนะในขณะเมาสุรา ขณะที่ผู้หญิงโดนข้อหา ไม่สวมหมวกนิรภัย.-สำนักข่าวไทย