ศธ. เคาะปฏิทินเปิดเทอมภาคเรียนที่ 1/2563

สำนักข่าวไทย 9 พ.ค. 63 – กระทรวงศึกษาธิการเผยแนวทางการเปิด-ปิดภาคเรียนในสถานการณ์ฉุกเฉิน “เพิ่ม” เวลาพัก 54 วัน เพื่อเป็นการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ COVID-19

ภาคเรียนที่ 1/2563
มีระยะเวลาเปิดภาคเรียน คือ 1 ก.ค. 63 – 13 พ.ย. 63 เป็นจำนวนวันเรียน 93 วัน และปิดภาคเรียน 17 วัน (14-30 พ.ย. 63)
ภาคเรียนที่ 2/2563 จะมีระยะเวลาการเปิดภาคเรียนคือวันที่ 1 ธ.ค. 63 – 9 เม.ย. 64 เป็นจำนวนวันเรียน 88 วัน และปิดภาคเรียน 37 วัน (10 เม.ย. – 16 พ.ค. 64)
ส่วนเวลาที่ขาดไป 12 วันนั้น ให้สถานศึกษาสอนชดเชยเพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนครบตามหลักสูตร
นอกจากนี้ยังมีแนวทางการจัดการเรียนการสอนในช่วง COVID-19 ครั้งที่ 2 ในกรณีที่ไม่สามารถทำการเรียนการสอนที่โรงเรียนได้ในวันที่ 1 ก.ค. 63 ดังนี้
นโยบายการตัดการศึกษาช่วง COVID-19 คือ
“เพิ่ม” เวลาพัก “ลด” ประเมิน “งด” กิจกรรมที่ไม่จำเป็น 
ด้านการออกแบบการเรียนการสอน
80% จะเป็นการเรียนการสอนที่สนับสนุนโดยส่วนกลาง ดำเนินการโดยกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนอีก 20% เป็นการเรียนการสอนเพิ่มเติมที่ออกแบบเฉพาะเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทในพื้นที่ จะพิจาณาเพิ่มเติมตามความเหมาะสม ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอนและในโรงเรียน โดยกระทรวงศึกษาธิการให้การสนับสนุน
ด้านกำหนดการเตรียมพร้อมก่อนการเปิดเทอม
วันนี้ – 17 พ.ค. 63 ส่วนกลางเตรียมความพร้อม โดยสำรวจความพร้อมด้านอุปกรณ์การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของนักเรียน ผู้ปกครอง ครู และระบบการจัดการเรียนการสอนของทุกโรงเรียน รวมถึงการจัดทำวีดิทัศน์สื่อการสอนเพิ่มเติมสำหรับ ม.4 – ม.6
18 พ.ค. 63 – 30 มิ.ย. 63 โรงเรียนทดสอบระบบจริง โดยโรงเรียน (ผอ.และครู) ดำเนินการให้นักเรียนทดสอบระบบการเรียนที่บ้าน, ส่วนกลางเปิดรับ Feddback การใช้งานระบบ รวมถึงสนับสนุนอุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ เพิ่มเติม ตามความจำเป็นของแต่ละพื้นที่
1 ก.ค. 63 เปิดเทอม ในกรณีที่ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ จะมีการเรียนรู้ผ่าน 4 ช่องทาง คือ
1. เรียนรู้หลักผ่าน TV ทุกระบบ (On-Air Education)
2. เรียนรู้เสริมผ่านดิจิทัล (Online Education)
3. เรียนรู้เสริมแบบโต้ตอบ (Interactive Education)
4. เรียนรู้ที่โรงเรียนแบบเป็นกะ (Onsite Education)
การเรียนการสอบแบบผสมผสาน
– เรียนรู้หลักผ่าน TV ทุกระบบ (On-Air Education) 17 ช่อง
– เรียนรู้เสริมผ่านดิจิทัล (Online Education) ด้วยแพลตฟอร์มด้านการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ DEEP (Digital Education Excellence Platform) สามารถเลือกเรียนรู้ได้ตามความสนใจและความสะดวก
– เรียนรู้เสริมแบบโต้ตอบ (Interactive Education) โดยจัดการเรียนการสอนออนไลน์ เมื่อครูและนักเรียนทุกคนมีความพร้อมด้านอุปกรณ์และการเชื่อมต่อ
ทั้งนี้เพื่อเป็นการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ COVID-19 ของบุคลากรทางการศึกษา และใช้วิกฤติในครั้งนี้ สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับการศึกษาไทย.-สำนักข่าวไทย




ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส