ป.ป.ส. 7 พ.ค.-ป.ป.ส.ระบุแก้กฎหมายเพิ่มรางวัลนำจับคดี -ยึดทรัพย์คดียาเสพติด ร้อยละ25-50 อีกทั้งเพิ่มเงินตอบแทนอีกคดีละไม่เกิน 5,000บาท กรณีจับผู้ค้าที่จำหน่ายให้เด็กและเยาวชน มีผล31พฤษภาคมนี้
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) ชี้แจงถึงความคืบหน้าในการแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับยาเสพติดเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด ว่าเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ระเบียบดังกล่าวได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
โดยสาระสำคัญของการแก้ไขระเบียบดังกล่าว เน้นการจ่ายเงินค่าตอบแทนให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดที่ทำการขยายผลจนสามารถจับตัวการสำคัญได้ ดังนั้นในกรณีที่จับยึดได้เฉพาะตัวยาเสพติดและไม่มีผู้ต้องหา จะจ่ายเงินค่าตอบแทนแก่ผู้สืบสวนจับร้อยละ 25 ของจำนวนเงินที่คำนวณได้จากปริมาณยาเสพติดตามอัตราที่กระทรวงยุติธรรมกำหนด ส่วนกรณีที่จับได้ทั้งผู้ต้องหาและยึดยาเสพติดได้ จะจ่ายเงินค่าตอบแทนให้ผู้จับร้อยละ 50 ของจำนวนเงินที่คำนวณได้จากปริมาณของยาเสพติด
โดยทั้งสองกรณีดังกล่าวข้างต้น หากพนักงานสอบสวนหรือผู้สืบสวนจับได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป จนสามารถจับผู้ร่วมกระทำความผิดเพิ่มเติม นายทุน เจ้าของยาเสพติด หรือตัวการที่อยู่เบื้องหลังการกระทำความผิดได้ ก็จะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มอีกร้อยละ 25 ซึ่งรวมไปถึงกรณีการสืบสวนสอบสวนขยายผลไปจับผู้กระทำความผิดเครือข่ายใหม่ พนักงานสอบสวนและผู้สืบสวนจับที่ทำการขยายผล ก็จะได้รับเงินค่าตอบแทนเพิ่มร้อยละ 25 เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้กรณีที่เป็นการจับผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดให้กับเด็กหรือเยาวชนในหมู่บ้านชุมชน ผู้สืบสวนจับจะได้รับเงินค่าตอบแทนเพิ่มเป็นรายคดีอีกคดีละไม่เกิน 5,000 บาท
“การแก้ไขเป็นไปตามนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติด ในการสืบสวนและสอบสวนเพื่อทำลายเครือข่ายวงจรการค้ายาเสพติดให้ได้อย่างเด็ดขาด และเพื่อเป็นการลดความเดือดร้อนให้กับประชาชนในหมู่บ้านหรือชุมชนให้ได้อย่างแท้จริง โดยระเบียบนี้จะมีผลบังคับใช้กับคำขอรับเงินรางวัลในทุกคดีที่ยื่นขอรับเงินค่าตอบแทนตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป ส่วนในคดีที่มีการจับกุมก่อนวันดังกล่าว หากพนักงานอัยการมีคำสั่งในคดีแล้ว ขอให้ผู้ผู้ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดได้ดำเนินการยื่นคำขอตามระเบียบ” นายนิยม กล่าว.-สำนักข่าวไทย