ป.ป.ส. 10 ม.ค. – ป.ป.ส. ร่วมทัพเรือ ขยายผลจับกุมหญิงไทย ซุกโคเคน 206 กรัม ส่งผ่านพัสดุระหว่างประเทศ ต้นทางจากสหราชอาณาจักร
สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับกรมข่าวทหารเรือ และทัพเรือภาคที่ 1 จับกุมผู้ต้องหาหญิง 1 คน พร้อมโคเคนรวม 206 กรัม ซุกซ่อนในซองจดหมายส่งผ่านพัสดุระหว่างประเทศ ต้นทางจากสหราชอาณาจักร เหตุเกิดในพื้นที่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากการปฏิบัติการภายใต้โครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force : AITF) เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ตรวจพบพัสดุระหว่างประเทศต้นทางจากสหราชอาณาจักร ภายในซุกซ่อนโคเคน 104 กรัม ที่อยู่ผู้รับระบุเป็นชายชาวอังกฤษ ซึ่งพำนักอยู่ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงได้มอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สั่งการชุดปฏิบัติการสืบสวนขยายผล และติดตามกระทั่งวันที่ 8 มกราคม 2568 พบหญิงไทยผู้ร่วมขบวนการ เป็นผู้มาติดต่อรับพัสดุดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม ผู้ต้องหาให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากชายชาวอังกฤษให้มารับพัสดุ และในวันที่ 9 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดพัสดุระหว่างประเทศเพิ่มอีก 1 ชิ้น ภายในบรรจุโคเคน 102 กรัม ต้นทางจากสหราชอาณาจักร ที่อยู่ผู้รับตรงกับพัสดุชิ้นแรก สำนักงาน ป.ป.ส. จึงได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับชายชาวอังกฤษ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งในห้วงปี 2567 พบการลักลอบนำเข้าโคเคนจากสหราชอาณาจักรเข้าประเทศไทยผ่านทางพัสดุระหว่างประเทศถึง 5 ครั้ง น้ำหนักรวม 512 กรัม ซุกซ่อนในสินค้าหลากหลายชนิด เช่น กระป๋องผงโปรตีน โรลออนระงับกลิ่นกาย และซองพลาสติกใส ผู้รับส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ล่าสุดยังจับกุมผู้ต้องหาชาวมัลดีฟส์ พร้อมเมฟีโดรนจำนวนมากซุกซ่อนในกระปุกเวย์โปรตีน
ทั้งนี้ พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ ได้กล่าวกล่าวขอบคุณต่อหน่วยงานทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบพัสดุระหว่างประเทศ ที่มีความสังเกตและใส่ใจ กระทั่งสามารถตรวจยึดยาเสพติดที่ซุกซ่อนมาในพัสดุหลากหลายรูปแบบ และเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการสกัดกั้นยาเสพติด และชื่นชมการทำงานที่มุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ทำให้สามารถขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้ในเวลาที่รวดเร็ว ความสำเร็จในครั้งนี้เป็นผลจากความร่วมมือที่ทำงานอย่างเป็นระบบ ซึ่งนอกจากจะช่วยสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดแล้ว ยังแสดงถึงศักยภาพของเจ้าหน้าที่ไทยในระดับนานาชาติอีกด้วย.-119- สำนักข่าวไทย