กรุงเทพฯ 7 พ.ค. – กรมปศุสัตว์เปิดตลาดสินค้าเนื้อสัตว์ปีกแช่เย็นส่งออกไปสิงคโปร์ครั้งแรก คาดสร้างรายได้เข้าประเทศไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทต่อปี จากเดิมส่งออกได้เฉพาะเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็ง ตอกย้ำความเชื่อมั่นผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ปีกของไทย
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้ประสานงานกับสำนักงานควบคุมอาหารของสิงค์โปร์ (SFA) อย่างต่อเนื่องตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งการให้หาตลาด เพื่อส่งออกสินค้าใหม่ ๆ ล่าสุดสิงคโปร์ประกาศรับซื้อสินค้าเนื้อสัตว์ปีกแช่เย็นจากไทยเพิ่มเติม จากเดิมรับเฉพาะเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งเท่านั้น ซึ่งนับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ เนื่องจากสิงคโปร์จัดสินค้ากลุ่มเนื้อสัตว์ปีกแช่เย็นเป็นสินค้าที่มีความเสี่ยงสูง เพราะต้องจัดเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 0-4 องศาเซลเซียส เพื่อให้นำไปปรุงสุกได้ทันที โดยยังคงรสชาติดีและสดใหม่
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า การที่สิงคโปร์เปิดตลาดรับสินค้าเนื้อสัตว์ปีกแช่เย็นจากไทยแสดงถึงมีความมั่นใจในระบบการกำกับดูแลการผลิตสินค้าเนื้อสัตว์ปีกของกรมปศุสัตว์ ซึ่งมีมาตรการควบคุมเชื้อแซลโมเนลลา การเฝ้าระวังยาสัตว์ตกค้างและสารปนเปื้อนในระบบการเลี้ยงไก่/เป็ดเนื้อ ตลอดจนอาหารสัตว์ที่ใช้ในการเลี้ยง คาดว่าจะมีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 100 ล้านบาท อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดการจ้างแรงงานในระบบการผลิตสินค้าสัตว์ปีกในภาวะที่มีผู้ตกงานจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ด้วย
นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันไทยส่งออกสินค้าเนื้อสัตว์ปีกไปตลาดหลัก คือ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป สิงคโปร์ และประเทศอื่น ๆ โดยเป็นสินค้าเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งประมาณ 70% ในปี 2562 มีปริมาณการส่งออก 963,182.76 ตัน คิดเป็นมูลค่า 113,023.60 ล้านบาท ส่วนอีก 30% เป็นการส่งออกสินค้าเนื้อสัตว์ปีกแช่เย็น ตลาดหลัก คือ ประเทศเพื่อนบ้านไทย ได้แก่ เมียนมา ลาว และกัมพูชา มีปริมาณการส่งออกสินค้า 6,147.73 ตัน คิดเป็นมูลค่า 554.49 ล้านบาท ดังนั้น การเปิดตลาดสิงคโปร์เพิ่มได้จะสร้างรายได้และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ประสงค์จะส่งออกสินค้าเนื้อสัตว์ปีกแช่เย็น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มตรวจสอบมาตรฐานด้านการปศุสัตว์ สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ (สพส.) กรมปศุสัตว์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-653-4444 ต่อ 3134.-สำนักข่าวไทย