ครม.มอบ ศบค.ออกมาตรการคลายล็อก

ทำเนียบฯ 28 เม.ย.- ที่ประชุม ครม.ต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่ออีก 1เดือน ระหว่างวันที่ 1-31 พ.ค. ขยายระยะเวลาห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยออกไปอีก 1 เดือน คงเคอร์ฟิว 22.00-04.00 น. มอบอำนาจ ศบค.ออกแนวทางปฏิบัติผ่อนคลายมาตรการบังคับใช้กฎหมายบางอย่างให้ประชาชนดำรงชีวิตได้อย่างปกติขึ้น  โดยหารือผู้ว่าฯ กทม. ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ กำหนดรายละเอียด หากพบโควิด-19 กลับมาระบาดอีก ยกเลิกมาตรการผ่อนคลายทันที


นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 –  31 พฤษภาคม 2563 ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ ในรายละเอียดว่า สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะสำนักงานประสานงานกลาง ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้เชิญผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและประชาคมข่าวกรองเข้าร่วมการประชุม เพื่อประเมินผล พบว่าการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1เดือน ที่ผ่านมา ทำให้การบริหารจัดการเป็นเอกภาพส่งผลให้ผู้ติดเชื้อรายวันของประเทศไทยมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการบริหารจัดการของศูนย์ปฏิบัติการต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นไปด้วยความรวดเร็วและทันท่วงทีต่อการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประกอบกับหน่วยงานด้านการข่าวได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน พบว่าประชาชนที่ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่เห็นด้วยและพึงพอใจต่อการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาล และเห็นด้วยที่รัฐบาลจะพิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป ที่ประชุมจึงเห็นสมควรเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีก 1 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563


นางนฤมล กล่าวว่า ที่ประชุมให้คงมาตรการข้อกำหนดที่ปฏิบัติ ประกอบด้วย  การจำกัดการเข้าราชอาณาจักรทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ สำหรับทางอากาศ ให้ขยายระยะเวลาการห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราวออกไปอีก 1 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 -31 พฤษภาคม 2563 ,ห้ามบุคคลทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 22.00 – 04.00 น. ,ให้งดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดโดยไม่จำเป็น, ห้ามประชาชนเข้าไปในพื้นที่ หรือสถานที่ซึ่งมีคนจำนวนมากไปทำกิจกรรมร่วมกันและเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคติดเชื้อโควิด – 19 เป็นการชั่วคราว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการปฏิบัติในห้วงต่อไปภายหลังการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการให้ ศบค.เป็นกลไกหลักในการกำหนดกรอบแนวทางการบังคับใช้อำนาจตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และให้ศูนย์ปฏิบัติการในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โรคโควิด – 19 ในด้านต่าง ๆ กรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัด กำหนดรายละเอียดใน การปฏิบัติงานตามประเภทของภารกิจและความรับผิดชอบของตนในพื้นที่

นางนฤมล กล่าวว่า ให้กระทรวงการต่างประเทศเร่งรัดตรวจสอบและรวบรวมจำนวนคนไทยในต่างประเทศที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งจะมีจำนวนมากขึ้นเนื่องจากมีตัวเลขคนไทยตกค้างในต่างประเทศสะสมให้ได้จำนวนที่ชัดเจนและประสานงานกับสำนักงานประสานงานกลางของ ศบค. เตรียมการรองรับกลุ่มบุคคลดังกล่าวเดินทางกลับประเทศเพื่อเข้าสู่มาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพื่อเป็นการผ่อนคลายมาตรการบังคับใช้กฎหมายบางอย่างให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติขึ้น ลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงภายใต้ความปลอดภัยของประชาชน สำนักงานประสานงานกลางจะได้ร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุข สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ปรึกษาด้านธุรกิจ ศบค. ภาคธุรกิจและทุกภาคส่วนร่วมกันกำหนดมาตรการผ่อนคลาย 

นางนฤมล กล่าวว่า การผ่อนคลายมาตรการในการบังคับใช้อำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะต้องดำเนินการโดยคำนึงถึงปัจจัยทางด้านการสาธารณสุขเป็นหลัก และนำปัจจัยด้านอื่น ๆ มาใช้ประกอบการพิจารณา อาทิ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ และปัจจัยด้านสังคม ส่วนการดำเนินมาตรการผ่อนคลายให้พิจารณาจากประเภทของกิจกรรมที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในลำดับแรก และมีการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนดควบคู่กันไปด้วยอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ จะต้องจัดเจ้าหน้าที่ หรือใช้เทคโนโลยีเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนดอย่างต่อเนื่อง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายหลังการประเมินผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินการตามวงรอบ หากพบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดมีแนวโน้มที่ภาครัฐสามารถควบคุมได้ดีขึ้นจะพิจารณากำหนดมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม  แต่หากพบว่ามีการฝ่าฝืนมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด หรือสถานการณ์การแพร่ระบาดมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นให้ยกเลิกมาตรการผ่อนคลายในทันที

นางนฤมล กล่าวว่า ในช่วงที่มีการดำเนินมาตรการผ่อนคลาย จะต้องเร่งรัดการตรวจเชื้อโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง อาทิ กลุ่มสาขาอาชีพบริการ กลุ่มแรงงานต่างด้าว และมีการใช้เทคโนโลยีติดตามเพื่อตรวจตรากิจกรรมควบคู่กันไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อควบคุมและป้องกันมิให้เชื้อโรคโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดได้อีก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง เล็งออกมาตรการช่วยผู้สูงอายุ

นายกฯ เป็นประธานประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจนัดแรก เผยจีดีพีรวม 3 ไตรมาส 2.3% ฟื้นตัวต่อเนื่อง เล็งออกมาตรการช่วยกลุ่มผู้สูงอายุต่อไป

นายกฯคุยทรัมป์

“แพทองธาร” นายกฯ สนทนาทางโทรศัพท์กับ “โดนัลด์ ทรัมป์”

“แพทองธาร” นายกฯ สนทนาทางโทรศัพท์ กับ “โดนัลด์ ทรัมป์” แสดงความยินดีชนะเลือกตั้งยืนยัน ประเทศไทยพร้อมทำงานกับสหรัฐฯ ด้าน “ทรัมป์” ชื่นชม นายกฯ

ศาลยกฟ้อง “ชัยวัฒน์” คดีอดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ ฟ้องปมจับส่วย

ศาลยกฟ้อง “ชัยวัฒน์” ไม่ผิดคดี “รัชฎา” อดีตอธิบดีกรมอุทยาน ฟ้องแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งรับโทษ ปมรับส่วย 9.8 หมื่นบาท ชี้เป็นการแจ้งข้อมูลข้อเท็จจริงไม่ได้แต่งเติม