“ชาญศิลป์” เชื่อมั่นซีอีโอ ปตท.คนใหม่สานงานต่อไม่สะดุด

กรุงเทพฯ 22 เม.ย. – “ชาญศิลป์” พบสื่อ ก่อนอำลำตำแหน่งซีอีโอ ปตท.คนที่ 9 ระบุสิ่งที่เสียใจสุด คือ คดีทุจริตในองค์กร “ปาล์ม- โรลส์-รอยซ์” จะย้ำในบอร์ด 30 เม.ย.วางแนวทางป้องกันทุจริตในอนาคต เชื่อมั่นซีอีโอคนใหม่สานต่องานไม่สะดุด ย้ำ ปตท.สนับสนุนต้านโควิด-19 ทุกแนวทาง  


นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เปิดใจก่อนอำลาตำแหน่งในวันที่ 12 พฤษภาคม ว่า สิ่งที่ภูมิใจมากที่สุด คือ การเป็นพนักงาน ปตท.มา 38 ปี  และร่วมทำงานด้านต่าง ๆ  ส่งผลให้ ปตท.แข็งแกร่ง ได้รับรางวัลจำนวนมาก แต่สิ่งที่รู้สึกเสียใจที่สุด คือ เรื่องทุจริต ที่มีอดีตพนักงานร่วมกับนักการเมืองบางคนและคนภายนอก เช่น คดีปาล์มน้ำมันในอินโดนีเซีย ,การจ่ายสินบนของบริษัท โรลส์-รอยซ์  ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. แม้ยังไม่มีการพิพากษา และมีผลที่ชัดเจน ก็เป็นบทเรียนที่ต้องระวังต่อไป โดยจะพูดเรื่องนี้ในการประชุมคณะกรรมการ ปตท.วันที่ 30 เมษายนนี้ ซึ่งจะเป็นนัดสุดท้ายที่เข้าร่วมประชุม

“ส่วนการส่งไม้ต่อให้กับนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ซีอีโอ ปตท.คนใหม่ เชื่อมั่นงานไม่สะดุด เพราะ ปตท.ทำงานกันเป็นทีมเวิร์คอยู่แล้ว เชื่อว่าจะมาขับเคลื่อนสานต่อกลยุทธ์การลงทุนที่ได้กำหนดไว้ร่วมกันอยู่แล้ว โดยนับจากนี้ไปเทคโนโลยีดิจิทัลจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น หลังโควิด-19 รวมทั้งธุรกิจไฟฟ้า ความมั่นคงของรัฐ เทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งมีแผนงานที่ทำร่วมกันไว้แล้ว” นายชาญศิลป์ กล่าว


นายชาญศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ทำให้เกิดพฤติกรรมใหม่ (New Normal) สำหรับการตัดสินใจซื้อสินค้าในอนาคต ซึ่งกลุ่ม ปตท.ต้องติดตามและปรับแผนให้เหมาะสมในอนาคต โดยพฤติกรรมใหม่ที่จะเกิดขึ้น คือ การใช้ระบบดิจิทัลมากขึ้นทั้งการทำงานที่บ้าน การสั่งซื้อสินค้า ประชาชนจะให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพ  เวชศาสตร์แห่งการชะลอวัย สินค้าอาหาร การค้าปลีก ซึ่งสินค้าด้านสุขภาพ เช่น หน้ากากอนามัย ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีวิต

นายชาญศิลป์ กล่าวด้วยว่า ในช่วงการระบาดของโควิด-19 กลุ่ม ปตท.ได้ร่วมมือสู้ภัยโควิด-19  โดยดำเนินการหลายด้านอย่างเป็นรูปธรรม เช่น ระดมสรรพกำลังความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรมและเทคโนโลยีให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการปฏิบัติงานแก่บุคลากรทางการแพทย์ ในด้านงานวิจัย พัฒนา จัดหา และผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอ มีงานสำคัญเร่งด่วน อาทิ การสนับสนุนเสื้อกาวน์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ซึ่งผลิตจากเม็ดพลาสติกของกลุ่ม ปตท. พร้อมมอบผ้าสปันบอนด์เคลือบสารกันน้ำและสารคัดหลั่ง สำหรับผลิตเป็นชุดป้องกันส่วนบุคคล PPE การผลิตหมวกอัดอากาศความดันบวก PAPR การผลิตเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อแบบแรงดันลบ เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อ การพัฒนาห้องตรวจวินิจฉัยโรคแบบป้องกันเชื้อ การผลิตกล่องป้องกันเชื้อฟุ้งกระจาย สำหรับกระทำหัตถการของบุคลากรทางการแพทย์ การผลิตและสนับสนุน Face Shield และการร่วมสนับสนุนของภาคีเครือข่าย การมอบแอลกอฮอล์ และกลุ่ม ปตท.ยังอยู่ระหว่างพัฒนาอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการสนับสนุนภารกิจของบุคลากรทางการแพทย์และดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 


ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานดังกล่าวสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี กลุ่ม ปตท.จึงตั้ง “คณะกรรมการกิจการเพื่อสังคม กลุ่ม ปตท. เพื่อสู้ภัย COVID-19” เพื่อผลักดันการดำเนินงานสำคัญครั้งนี้เป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นและร่วมกันดำเนินภารกิจให้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติจริงสามารถเห็นผลเป็นรูปธรรมต่อไป. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน