สหรัฐ 4 เม.ย.- สหรัฐยังคงเผชิญกับการประท้วงของผู้คนในรัฐต่างๆ ซึ่งไม่พอใจคำสั่งของผู้ว่าการรัฐที่ให้อยู่แต่ภายในบ้าน เพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019
เมื่อวานนี้ มีการออกมาชุมนุมประท้วงทั้งในรัฐแอริโซนา โคโลราโด มอนแทนา และวอชิงตัน ขณะที่วันก่อนหน้ามีการประท้วงในกว่า 20 รัฐทั่วประเทศ ที่รัฐวอชิงตัน ประชาชนกว่า 2,000 คน ออกมาชุมนุมถือป้ายประท้วงที่บริเวณอาคารรัฐสภาไม่สนใจคำสั่งไม่ให้ออกมารวมตัวเกิน 50 คน และบางคนไม่ยอมสวมหน้ากาก
ขณะที่เมื่อวันศุกร์ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กลับทวีตข้อความสนับสนุนการประท้วงของผู้คน โดยกล่าวว่า มาตรการล็อกดาวน์ในรัฐมิชิแกน มินนิโซตา และเวอร์จิเนียเข้มงวดเกินไป
ด้านผู้ว่าการรัฐในหลายรัฐได้เริ่มหารือกันถึงการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองและเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหลังมีสัญญาณว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐได้มาถึงจุดสูงสุดแล้วและอัตราการติดเชื้อกำลังชะลอตัวในบางรัฐ แต่ก็มองว่าการระบาดเพิ่งจะมาถึงครึ่งทางเท่านั้น และต้องการให้มีการทดสอบหาผู้ติดเชื้อเพิ่มมากกว่านี้โดยให้รัฐบาลกลางให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ดี ผู้นำสหรัฐบอกว่า เขาเห็นด้วยกับมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่รัฐต่างๆ แต่ต้องเป็นมาตรการช่วยเหลือที่จะหารือกับสภาคองเกรสในอนาคต ไม่ใช่ที่กำลังเจรจาในตอนนี้ ปัจจุบัน สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 กว่า 760,000 คน และมียอดผู้เสียชีวิตกว่า 40,000 คน มากที่สุดในโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย