จ.นครศรีธรรมราช 17 เม.ย..-ผอ.รพสต.ห่วงผู้ติดสุราเรื้อรัง หลังออกมาตรการห้ามขายเหล้าเบียร์ แนะสร้างกลไกตามหาผู้ติดเหล้า เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ขณะที่ อดีตเซียนเหล้า ชี้ใช้โอกาสนี้ลดละเลิก วอนงดปาตี้สังสรรค์ช่วยหยุดโควิด
นายพิชิตชัย นำนาผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านย่านยาว ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า การออกประกาศห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดเชื้อโควิด–19 ถือเป็นมาตรการที่ดี เพราะเป็นช่วงที่ทุกคนควรอยู่บ้าน เว้นระยะห่าง งดสังสรรค์ แต่อาจจะกระทบกับผู้ที่มีอาการติดสุรา จากการสำรวจร่วมกับ ทีม อสม.พบมีคนติดสุราเรื้อรังในพื้นที่ 7 ราย ในจำนวนนี้สมัครใจใช้โอกาสนี้ลดละการดื่มเพียง 1 รายเป็นชายอายุ 28 ปี อาการหนัก ตัวซีด ปวดท้อง มือสั่น จึงต่อส่งต่อไปที่โรงพยาบาลมหาราช เพื่อประเมิน อาการและรับการรักษาต่อไป ซึ่งได้เร่งติดตามผู้ติดสุราเรื้อรังให้เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ก่อนจะเกิดความสูญเสีย โดยส่วนใหญ่ในพื้นที่จะรู้กันว่าใครอยู่บ้านไหน เพราะใกล้ชิดกันอยู่แล้ว
การสำรวจ ยังพบหลายราย ที่ลำบาก ไม่มีที่อยู่ ตกงาน ซึ่งต้องเข้าช่วยเหลือ โดยร่วมกับเครือข่ายงดเหล้าภาคใต้ตอนบน ซึ่งหากรัฐบาลจะขยายประกาศห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อไปอีก ทางตำบลก็ยินดี เพราะครอบครัวส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่ควรมีระบบรองรับผลกระทบที่ตามมา
“ในช่วงวิกฤตโควิด และมีมาตรการห้ามขายเหล้าเบียร์นี้ คนที่ดื่มหนัก ควรค่อยๆลดปริมาณลง ยิ่งใครที่ดื่มเหล้าแก้วเดียวกัน มีภูมิต้านทานน้อย ยิ่งเสี่ยงติดโควิด ควรงดการสังสรรค์ และใช้โอกาสนี้ลดละเลิกเหล้า เอาเงินมาหยอดกระปุกเป็นค่าเทอม ค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ เพราะครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ ควรรักครอบครัว อย่าให้ลูกเมียต้องเดือดร้อน สิ่งสำคัญได้ทำประโยชน์ช่วยเหลือคนอื่นเพื่อ ไม่เป็นภาระใคร ทั้งนี้หากครอบครัวต้องการปรึกษา สามารถโทรไปปรึกษา 1413 ได้” นายสุไกร กล่าว
นางดวงรัตน์กานต์ ปะทิรัมย์ อสม.หมู่ 5 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร กล่าวว่า ตนเป็น อสม.ตั้งแต่ปี 2545 หลายๆเคสที่สามารถเลิกเหล้าได้เพราะความร่วมมือจากครอบครัวด้วย รวมไปถึง อสม.ในพื้นที่ และที่นี่ยังมีการเชิญชวนเคสเข้าโครงการสติบำบัด การปรับสภาพจิตใจ มีการติดตามเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง มีส่วนหนึ่งที่เลิกได้ บางส่วนก็ลดละเลิก
“ปกติ อสม.จะต้องดูแลรับผิดชอบ คนในหมู่บ้าน 10-15 ครัวเรือน ยิ่งช่วงนี้มีมาตรการห้ามขายเหล้า อสม.จะต้องรู้ว่าใครเสี่ยง ไม่เสี่ยงในการดื่มเหล้าหนัก โดยการประเมิน ดูแล พูดคุย เรามีคนหัวใจเพชรเลิกเหล้าที่คอยเป็นพี่เลี้ยงครอบคลุมทั้งตำบล สิ่งสำคัญคือต้องให้กำลังใจผู้ที่ดื่มหนัก คอยห่วงใยดูแล ประเมินสภาพความเป็นอยู่ หากพบว่า อาการหนักรับมือไม่ได้ก็ต้องรีบส่งต่อโรงพยาบาล ข้อสำคัญคนใกล้ชิดอย่าปล่อยให้เขาอยู่เพียงลำพัง เพราะหากเกิดอาการ ภาพหลอน ใจสั่น มีไข้สูง เพ้อ อาจนำไปสู่การช็อคและเสียชีวิตได้ อสม.ถือเป็นด่านหน้า คัดกรอง และเรายังต้องดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง เป็นผู้ส่งยา เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงที่อาจมีเชื้อไวรัสโควิด-19 ” นางดวงรัตน์กานต์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย