“พล.อ.ประวิตร” ถก คกก.ดิจิทัลร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจ-สังคม จากโควิดระบาด

สำนักข่าวไทย 10 เม.ย.- “พล.อ.ประวิตร” ถกคอนเฟอเรนซ์คณะกรรมการดิจิทัล ร่วมฟื้นฟูและเยียวยา เศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์ระบาดไวรัสโควิด-19


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคอนเฟอเรนซ์คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2563 ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล และว่าครั้งนี้มีวาระเร่งด่วนที่ต้องพิจารณาเพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ให้เร็วที่สุด โดยภาครัฐกำลังเร่งพัฒนาทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และด้านการส่งเสริมและพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม และส่งผลให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการพัฒนาอย่างแท้จริง 


นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รายงานที่ประชุม เพื่อรับทราบที่เห็นด้วยกับมาตรการสนับสนุนการใช้บริการด้านโทรคมนาคมเพื่อลดผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่สพนักงาน กสทช. นำเสนอการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของ กสทช. ที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” และได้รับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตามระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2560 โดยสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อทดแทนที่ลาออก จำนวน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ด้านสังคมศาสตร์ ด้านการศึกษาและพัฒนากาลังคนและด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถานะปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งต่อไปที่ประชุมได้เห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้คุณวุฒิ ด้านเศรษฐศาสตร์ ในคณะกรรมการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล 


ที่ประชุมพิจารณาในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ (COVID-19) ทำให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน ตลอดจนส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมและในคราวการประชุมตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ เร่งดำเนินการป้องกัน ควบคุม แก้ไขปัญหา และบรรเทาผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงได้จัดทำแนวทางการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อสนับสนุนการดำเนินการเรื่องหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ผู้ยื่นข้อเสนอโครงการต้องเป็นส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ โรงพยาบาลรัฐ สถานพยาบาลภาครัฐ โรงพยาบาลในมหาวิทยาลัย และ โรงเรียนแพทย์ สภากาชาดไทยที่ได้รับผลกระทบหรือต้องการช่วยเหลือ สนับสนุน หรือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ “ไวรัสโคโรน่า”ส่วนใหญ่โครงการที่ขอรับการสนับสนุนจะเป็นโครงการที่ดำเนินการ เกี่ยวกับการป้องกัน ฟื้นฟู ช่วยเหลือ สนับสนุน หรือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ “ไวรัสโคโรน่า”ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหลักเกณฑ์นี้ ให้ใช้ตั้งแต่วันที่ประกาศจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2563 หรือจนกว่า สถานการณ์“ไวรัสโคโรน่า”จะสิ้นสุดลง แบ่งเป็นสองส่วน คือ  สำหรับจัดหาเทคโนโลยี หรืออุปกรณ์ด้านดิจิทัลที่สนับสนุน ช่วยเหลืองานด้านสาธารณสุขและการรักษาสุขภาพของประชาชน เช่น เครื่องช่วยหายใจ หุ่นยนต์ทำความสะอาด หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโรค กล้องวงจรปิด เครื่องรับส่งวิทยุมือถือ  และสำหรับโครงการที่ช่วยเหลือ ฟื้นฟู หรือเยียวยาจากผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์ “ไวรัสโคโรน่า” โดยการพิจารณาให้อยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการฯ ได้รับทราบและพิจารณาในวันนี้ มีหลายประเด็นที่ฝากเน้นย้ำให้ช่วยกันดำเนินงาน เพื่อให้มีประสิทธิภาพ และเห็นผลเป็นรูปธรรมให้เร็วที่สุด จะเป็นการจัดทำนโยบายและแผนเฉพาะด้าน ขอให้ครอบคลุมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ด้านพัฒนากำลังคน และด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่อไปการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขอให้พิจารณาโครงการที่เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะอย่างแท้จริง โดยเฉพาะโครงการที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของภาครัฐ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล อาทิ การพัฒนาระบบคลาวด์กลางภาครัฐ ขอให้คำนึงถึงการใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ โดยอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยของข้อมูลการบริหารจัดการดาวเทียมของประเทศ ขอให้คำนึงผลประโยชน์ของประเทศ และสิ่งที่ประชาชนจะได้รับเป็นหลัก และจากการประมูล 5G นอกจากเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แล้ว ขอให้เร่งผลักดันให้เกิดการใช้ระโยชน์ในด้านอื่น ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และการปรับตัวสู่สังคมดิจิทัลต่อไป และขอฝากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ช่วยเป็นหลักในการกำหนดทิศทางและผลักดันการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

กต.เผยหญิงไทยเสียชีวิต 1 ราย เหตุไต้ฝุ่นกองเร็ยถล่มไต้หวัน

ไต้ฝุ่นกองเร็ย คร่าชีวิตคนไทย 1 ราย ในไต้หวัน พบเป็นหญิงชาวสุโขทัย กต. แถลงเสียใจสุดซึ้งกับครอบครัว ย้ำประสานงานอย่างใกล้ชิด ย้ำ ก.แรงงาน แจ้งญาติเรียบร้อยแล้ว เผยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังโดยสารกับนายจ้าง

แอ่วเหนือคนละครึ่ง

เริ่มวันนี้ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” ช่วย 400 บาท 10,000 สิทธิ

ททท. จัดแคมเปญ “แอ่วเหนือ คนละครึ่ง” เริ่มวันนี้ มอบส่วนลด 50% ไม่เกิน 400 บาท รวม 10,000 สิทธิ แบบ First Come First Served หวังสร้างเม็ดเงินได้ไม่น้อยกว่า 44 ล้านบาท

ตำรวจอุ้มรีด

“พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์” ลั่นฟันวินัย-อาญา ตร.ไซเบอร์ ร่วมก๊วนอุ้มรีดชาวจีน

ผู้การตำรวจไซเบอร์ 1 บช.สอท. ลั่นฟันวินัย-อาญา ตำรวจไซเบอร์ 3 นาย ร่วมก๊วนตำรวจอุ้มรีดชาวจีน 300 ล้านบาท พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงใน 30 วัน