“อนุทิน” ลงนามเกณฑ์จ่ายชดเชยค่าบริการโควิด-19 ให้ รพ.

สปสช.1 เม.ย.-สปสช.ออกหลักเกณฑ์จ่ายชดเชยค่าบริการให้แก่หน่วยบริการ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) จ่ายค่าแล็บไม่เกิน 3,000 บาท/ครั้ง ค่ายาไม่เกิน 7,200 บาท/ราย เพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลดูแลรักษาประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ 


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า วันนี้ (1 เม.ย.) ได้ลงนามในประกาศ สปสช. เรื่อง ประเภทและขอบเขตของบริการสาธารณสุข (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2563 และ ประกาศ สปสช. เรื่อง หลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2563 และหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ (ฉบับที่ 5) เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2563 


ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสิทธิของบุคคลให้ได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ให้การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข สำหรับการให้บริการแก่ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งได้ดำเนินงานก่อนประกาศนี้ มีผลใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นการดำเนินงานตามประกาศนี้ด้วย


นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนของประกาศ สปสช.เรื่อง ประเภทและขอบเขตของบริการสาธารณสุข (ฉบับที่ 18) พ.ศ.2563 มีสาระสำคัญคือให้สิทธิการรับบริการสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 อยู่ในประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุขที่ผู้มีสิทธิได้รับตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ซึ่งการออกหลักเกณฑ์จ่ายชดเชยค่าบริการให้แก่หน่วยบริการ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จะช่วยทำให้โรงพยาบาลดูแลผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทองได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

“การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นสถานการณ์ไม่ธรรมดา การระดมทรัพยากรเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อยุติการแพร่ระบาด ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ เครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ป้องกัน และยารักษา รวมถึงงบประมาณ การออกหลักเกณฑ์การจ่ายชดเชยครั้งนี้ จะเป็นส่วนสนับสนุนให้หน่วยบริการดูแลผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ รัฐบาลโดย สปสช. จะจ่ายชดเชยเพิ่มเติมให้กับหน่วยบริการที่ดูแลผู้ป่วยโควิด 19 เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการดูแลผู้ป่วยในระบบปกติ” นายอนุทิน กล่าว 

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ประกาศ สปสช. เรื่อง หลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปีงบประมาณ 2563 และหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ(ฉบับที่ 5) จะกล่าวถึงการเพิ่มเติมค่าใช้จ่ายเพื่อบริการทางการแพทย์ต่างๆสำหรับกรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 ประกอบด้วย

1.การตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันการติดเชื้อ 

          1.1 ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันการติดเชื้อ รวมค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment : PPE) สำหรับบุคลากรห้องปฏิบัติการยืนยันการติดเชื้อ จ่ายตามจริงไม่เกิน 3,000 บาท/ครั้ง 

          1.2 ค่า PPE สำหรับบุคลากรเพื่อเก็บตัวอย่างส่งตรวจ จ่ายตามจริงไม่เกิน 540 บาท/ครั้ง

 

2.ค่าห้องควบคุมรวมค่าอาหาร 

          2.1 ค่าห้องควบคุมหรือห้องดูแลการรักษารวมค่าอาหาร ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขกำหนดหรือแนะนำ จ่ายตามจริงไม่เกิน 2,500 บาท/วัน 

          2.2 ค่าหอผู้ป่วยเฉพาะกิจโควิด-19 จ่ายตามจริงไม่เกิน 1,500 บาท/วัน

3. ค่า PPE จ่ายตามจริงไม่เกิน 740 บาทต่อชุด

          3.1 สำหรับผู้ป่วยอาการเล็กน้อย ถึงอาการปานกลาง จ่ายตามการให้บริการจริงไม่เกิน 15 ชุด/วัน

          3.2 สำหรับผู้ป่วยอาการรุนแรงจ่ายตามการให้บริการจริงไม่เกิน 30 ชุดต่อวัน

4. ค่ายาที่เป็นการรักษาเฉพาะผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด-19 จ่ายตามจริง ไม่เกิน 7,200 บาท/รายหรือจ่ายชดเชยเป็นยา ทั้งนี้ ในกรณีมีความจำเป็นที่หน่วยบริการต้องใช้ยารักษาผู้ป่วยเกินกว่าอัตราที่กำหนด ให้หน่วยบริการขออนุมัติต่อ สปสช. เป็นรายกรณี

5. ค่าพาหนะรับส่งต่อผู้ป่วยระหว่างหน่วยบริการ 

          5.1 ค่าพาหนะรับส่งต่อผู้ป่วยระหว่างหน่วยบริการ อัตราจ่ายเป็นไปตามคู่มือแนวทางปฏิบัติในการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของสำนักงาน

          5.2 ค่า PPE รวมค่าทำความสะอาดฆ่าเชื้อพาหนะ จ่ายตามจริงไม่เกิน 3,700 บาท/ครั้งที่มีการส่งต่อผู้ป่วย

6. ค่าตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อสำหรับการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้แก่ประชาชนไทยทุกคน จ่ายตามอัตราที่กำหนดในข้อ 1 โดยอนุโลม  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่คืนที่ 2 ตัดไฟฟ้าชายแดนเมียนมา ทำลายวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เข้าสู่คืนที่ 2 สำหรับการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปเมืองเมียวดีของเมียนมา เพื่อตัดวงจรกลุ่มจีนเทา พบมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าภายในเทศบาลตำบลรือเสาะ

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าจอดในอาคารจอดรถ เทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังเสร็จพิธีต้อนรับนายกเทศมนตรีคนใหม่ ทำให้ไฟไหม้รถเสียหายหลายคัน

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี