ตำรวจ พร้อมร่วมตรวจร้านค้า-ร้านสะดวกซื้อ ฝ่าฝืนคำสั่ง กทม.สั่งปิดเที่ยงคืน-ตีห้า

กรุงเทพฯ 1 เม.ย.-นครบาลพร้อมจัดกำลังตรวจตราร้านค้า ต่างๆ ใน กทม. ตามประกาศของ กทม. ปิดร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ เที่ยงคืน ถึงตี 5 


พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางไปตรวจจุดคัดกรองผู้เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ ควบคุมการแพร่ระบาดไวรัศโควิด-19 ด่านเชื้อเพลิงที่ 19  จุดที่ 9 หน้าคลังสินค้า ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดอนเมือง พร้อมทั้งมอบ face Shield แก่เจ้าหน้าที่ภายในด่าน พร้อมเปิดเผยว่าจากการตั้งจุดตรวจในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 12 จุดและภายในสถานีขนส่งต่างๆ พบผู้ที่มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ จำนวน 37 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนการตรวจคัดกรองโดยส่งตัวไป ตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลในเครือข่าย เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีการติดเชื้อ แต่ได้ส่งตัวไปตรวจซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันผลว่าไม่ได้ติดเชื้อจริง 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบผลการปฏิบัติ มีผู้ที่ผ่านตามด่านตรวจต่างๆในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น พบว่ามีปัญหาการจราจรในช่วงเช้ามากที่สุด แต่เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องตั้งจุดตรวจคัดกรองโรค จึงทำให้เกิดปัญหาการจราจรในจุดดังกล่าว ส่วนในช่วงเย็น ไม่เป็นปัญหาแต่จะไปมีปริมาณรถมากนอกพื้นที่นครบาล 


นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตามจุดคัดกรองต่างๆมากขึ้น โดยจะเน้นไปที่รถที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด และมีผู้สูงอายุเด็กหรือกลุ่มเสี่ยงเดินทางไปด้วย ซึ่งหากพบว่ามีลักษณะเข้าข่ายว่าจะติดเชื้อ ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนปฏิบัติของจุดทดลองต่างๆต่อไป ส่วนกรณีที่มีแนวคิดจะเพิ่มจุดตรวจคัดกรองในพื้นที่กรุงเทพฯนั้น ขณะนี้ทราบว่าเตรียมเปิดจุดคัดกรองเพิ่มเติมอีกจุดหนึ่งบริเวณถนนบรมราชชนนีในฝั่งขาเข้าแต่อยู่ระหว่างการพิจารณาของกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่าจะดำเนินการในลักษณะใด และมีผลกระทบต่อการจราจรหรือส่วนอื่นหรือไม่ ทั้งนี้หากผ่านการพิจารณาก็จะดำเนินการเปิดจุดตลอด 24 ชั่วโมงทันที จึงขอให้ประชาชนพิจารณาเดินทางด้วยความจำเป็นเท่านั้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อเป็นวงกว้าง 

ส่วนกรณีที่กรุงเทพมหานคร เตรียมจะประกาศปิดร้านค้า ร้านสะดวกซื้อต่างๆตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน จนถึง 5 นาฬิกาวันรุ่งขึ้น กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยังไม่ได้รับการประสานจากกรุงเทพฯมา แต่หากมีการประกาศหรือประสานขอกำลังช่วยเหลือ ก็จะจัดกำลังเข้าไปตรวจตรา ตามร้านค้าต่างๆทั่วพื้นที่นครบาลให้ทันที เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายหากมีร้านค้าใดที่ฝ่าฝืนคำสั่ง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว