ผู้เชี่ยวชาญห่วงต้านเผาศพโควิด-19 ย้ำศพไม่แพร่โรค

สำนักข่าวไทย 31มี.ค.-ผู้เชี่ยวชาญยอมรับปัญหาคนไม่เข้าใจโรคโควิด-19 ทำให้เกิดการต้านเรื่องสวดพระอภิธรรมและเผาศพ  ย้ำศพไม่แพร่โรค  มีระบบป้องกันอย่างดี ต่อไปต้องพบคนป่วย และเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่  การฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดเหมาะสำหรับ พื้นที่ปิด และเป็นพื้นที่สาธารณะ เพื่อลดโรค 


รศ.นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค และกรมการแพทย์  กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีวัดประกาศไม่รับศพผู้เสียชีวตบำเพ็ญกุศล หรือสวดพระอภิธรรม  เพราะหวั่นชาวบ้านในพื้นที่ไม่เข้าทำบุญ  ว่า เรื่องนี้ต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัด เพราะแต่เดิมโรคโควิด-19 พบคนป่วยและเสียชีวิตใน กทม.แต่ในต่างจังหวัด ยังไม่ค่อยพบผู้ป่วยหรือเสียชีวิตเท่าใด แต่อย่างไรก็ตามโรคนี้ต่อไปต้องพบอัตราการป่วย และเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ตอนนี้มีแค่ 9-10 คน ยังไม่พบจำนวนมาก ต้องฉวยโอกาสนี้ทำความเข้าใจว่าศพไม่มีทางแพร่เชื้อแน่นอน เพราะมีการฆ่าเชื้อก่อนบรรจุในซองซิปถึง 3 ชั้นและปิด ห้ามเปิดออกเด็ดขาด เชื้อจะแพร่ต่อเมื่อมีคนไปเปิด ไปดูหน้าศพ ซึ่งก็เป็นไปไม่ได้ อีกทั้งความร้อนในการเผาศพ มากกว่า 800-900 องศาเซลเซียส ใช้เวลาเผา 4 ชั่วโมง เชื้อโรคได้ตายไปหมดแล้ว แม้บางวัดจะปฏิเสธไม่รับสวดพระอภิธรรมศพ แต่ว่าก็ยังมีบางวัดเข้าใจ และยินดีรับสวด 


รศ.นพ.ทวี กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่วัดเรียกร้องหากรับศพต้องมีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดให้นั้น อยากให้เข้าใจว่า การฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ เหมาะสำหรับพื้นที่สาธารณะ ตามพื้นที่ หรือสถานที่มีมีคนหยิบจับ เท้าแขน เช่น รถไฟฟ้า รถโดยสาร ห่วงจับ ราวจับ และควรเช็ดมากกว่า พ่นน้ำยา การฉีดทุกพื้นที่ ไม่ได้ประโยชน์ และมีความจำเป็นที่ค่อนข้างต่ำ  เพราะทุกวันมีคนป่วย การฉีดฆ่าเชื้อต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุด ฉะนั้น การฉีดตามพื้นที่ถนน ไม่มีประโยชน์ เท่ากับการฉีดในพื้นที่จำกัด บางพื้นที่ และเป็นสาธารณะ ในที่ร่ม เพราะหากการฉีดในพื้นที่แดดส่องถึงมีความร้อนสูง แทบไม่จำเป็น เชื้อโรคอยู่ได้ภายนอกไม่ถึงนาที ผิดกับการพื้นที่ร่ม อากาศเย็น เชื้อโรคอาจอยู่ได้นานเป็นชั่วโมง 


รศ.นพ.ทวี กล่าวอีกว่า จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่าไม่มีการแพร่กระจายทางอากาศได้อย่างชนิดรุนแรง การแพร่กระจายในอากาศ มักอยู่ในห้องที่คนไข้อยู่ เป็นเรื่องของหมอกับพยาบาล  ในสภาพปกติ  ปัจจัยการอยู่ของเชื้อ ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ ความชื้น พื้นผิว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว