สธ. เตรียมประชุมมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 หลังพบ รพ.เอกชนให้ผู้ป่วยกลับบ้าน

สธ.29 มี.ค. – สธ. เตรียมประชุมมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 หลังพบ รพ.เอกชนให้ผู้ป่วยกลับบ้านจนแพร่เชื้อให้คนในครอบครัว แจงสถานการณ์ 4 จังหวัดป่วยโควิดพุ่งคล้าย กทม.แต่ไม่แพร่วงกว้าง ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุดรธานี นครราชสีมา ต้องเร่งแก้ไขใช้มาตรการสอบสวนให้รวดเร็ว ขณะที่ตั้งคณะกรรมการพิจารณาให้ รพ.เอกชน นำเข้าชุดตรวจโควิด-19 ย้ำไม่มีขายออนไลน์ ประชาชนอย่าซื้อมาตรวจเอง


นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์  รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า วันนี้ ยอดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ เพิ่ม143 คน  รวมยอดสะสม 1,388 คน และเสียชีวิตเพิ่ม1 คน  รวมยอดเสียชีวิตเป็น 7คน  กลับบ้านได้11คน  รวมยอดผู้ป่วยกลับบ้านได้แล้ว 111 คน  และยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,270 คน    สำหรับกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่  แยกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 70 คน ได้แก่ กลุ่มสนามมวย 5 คน, กลุ่มสถานบันเทิง 15 คน, กลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 49 คน และผู้ร่วมพิธีทางศาสนาที่ประเทศมาเลเซีย 1 คน

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 43 คน ได้แก่ กลุ่มที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงทั้งคนไทยและคนต่างชาติ 22 คน, กลุ่มผู้ทำงาน/อาศัย และเดินทางไปในสถานที่แออัดต้องใกล้ชิดคนจำนวนมากหรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 8 คน กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 8 คน และกลุ่มอื่นๆ ตามเกณฑ์เฝ้าระวัง เช่น ปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุ 5 คน  กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อแต่อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 30 คน


สำหรับผู้ป่วยเสียชีวิต 1 คน เป็นชายไทยอายุ 68 ปี มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน มีอาการเหนื่อยหอบ เข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ตรวจพบปอดอักเสบ และภาวะวิกฤติระบบทางเดินหายใจ จึงส่งต่อไปที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า อาการไม่ดีขึ้น และเสียชีวิตวันที่ 26 มีนาคม 2563 ส่วนผู้ป่วยอาการหนัก 17 คน มีอาการปอดอักเสบ ใส่เครื่องช่วยหายใจและเฝ้าระวังอาการใกล้ชิด ในจำนวนนี้ 1 คน ใช้เครื่อง ECMO อาการอยู่ในภาวะวิกฤต กรณีบุคคลากรทางการแพทย์ได้รับการยืนยันติดจากผู้ป่วย จำนวน 6 คน อีก 1 คนไม่ได้ติดผู้ป่วยและรอยืนยันอีก1 คน ต้องดูว่าติดมาจากใคร จึงอยากให้บุคคลากรทางการแพทย์ดูแลสุขภาพเท่าที่จะทำได้ 

นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยกระจายตัวไปใน 59 จังหวัด และลักษณะการกระจายต่างกัน ความเข้มข้น ระบบป้องกันโรคจะแตกต่างกันไป สิ่งที่ต่างจังหวัดจะดำเนินการ คือ การเฝ้าระวังคนเดินทางเข้าพื้นที่และให้กักตัว14 วันคล้ายที่กทม.ดำเนินงานการ ส่วนจังหวัดที่ผู้ป่วยน้อยลักษณะการดำเนินการ คือ ตรวจคัดกรองคนไข้ที่เดินทางให้ไวที่สุด สอบสวนโรค เพื่อยุติโรคให้ได้เร็วที่สุด ยุทธศาสตร์สำคัญของกรมควบคุมโรคขณะนี้ คือ ต้องการให้มีจังหวัดปลอดโควิด-19 มากที่สุด จะยิ่งทำให้การควบคุมโรคในจังหวัดใกล้เคียงดำเนินการง่ายขึ้น ส่วนในต่างจังหวัดที่มีจำนวนผู้ป่วยค่อนข้างมาก คือ จ.สุรินทร์ อุดรธานี บุรีรัมย์ นครราชสีมา จะต้องดำเนินงานคล้ายกทม.คือ ต้องตรวจคัดกรองโรคให้ได้โดยเร็วและลงไปสอบสวนโรคเร็วที่สุด และเพิ่มระยะห่างระหว่างบุคคลให้มากขึ้น พร้อมชี้แจงขั้นตอนที่สามารถให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้ ต้องมีผลการตรวจหาเชื้อในลำคอเป็นลบ 2 ครั้ง การให้คนไข้กลับ ยืนยันว่าคือ ไม่แพร่เชื้อให้คนอื่นอีก ส่วนกรณีแม่บ้านสนามมวย ติดเชื้อโควิด-19 และโรงพยาบาลแห่งหนึ่งให้กลับบ้าน การให้กลับบ้านตั้งแต่อาการยังไม่หมด กรณีนี้ไม่น่าเกิดขึ้น จะต้องมีการประชุมมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยที่ตรงกันอีกครั้ง พร้อมย้ำว่า80%ของผู้ติดเชื้อจะมีอาการน้อย หายได้เอง มีเพียง ไม่ถึง10% มีอาการเยอะและรักษาที่โรงพยาบาล การรับคนอาการน้อยไว้ที่รพ.เพราะลดการแพร่เชื้อ โดยพยายามหาสถานที่พักให้

ส่วนคนไข้ที่ไม่แสดงอาการ จนถึงช่วงติดเชื้อ และหายดี คนที่ไม่มีอาการมีโอกาสแพร่เชื้อ เทียบกับคนที่มีอาการ อยากทำความเข้าใจว่าบุคคลากรที่ออกมาจากรพ.ได้คือกลุ่มคนที่ไม่เสี่ยงออกมาแพร่เชื้อได้ ไม่อยากเห็นสังคมเกิดความแตกแยกของคนในพื้นที่ และเกิดการรังเกียจหรือตีตราผู้ป่วย โรงพยาบาล แยกจากคนไข้รายอื่นที่เข้าโรงพยาบาล โดยแยกหอผู้ป่วยชัดเจน 


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า การใช้ชุดทดสอบตรวจโควิด-19 ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา อย. ที่ผ่านมา คือการตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัส ย้ำว่าเป็นชุดทดสอบที่ผลิตเองไม่ได้สั่งจากต่างประเทศและมีน้ำยาอย่างเพียงพอ สามารถตรวจได้ถึง3,000 คน ต่อวัน มี 60 ห้องปฏิบัติการ ทั้งนี้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ ประเมินจาก กรมวิทย์ และอย.เพื่อให้สถานพยาบาลเอกชน นำเข้าชุดตรวจโควิด-19 ย้ำว่าการพิจารณาจะเป็นไปอย่างโปร่งใส

นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการอย. กล่าวว่า อย.มีการดำเนินการร่วมกับกรมวิทย์ จะมีการอนุญาตใบนำเข้าจากบริษัทนำเข้า เมื่อเอกสารครบถ้วนอย.จะอนุญาตให้นำเข้า หลังอนุญาตต้องมีการติดตามผลและ ยืนยันประเทศไทยยังไม่มีการนำเข้าชุดตรวจแบบแอนติเจนทดสอบภายใน1ชม.เข้ามาในประเทศไทย และไม่มีการขายในออนไลน์ ไมมีการโฆษณา และขอย้ำว่าประชาชนไม่ต้องซื้อมาตรวจเอง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว

เจ๊พัชกฤษอนงค์

นำ “เจ๊พัช” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

กองปราบหิ้ว “กฤษอนงค์” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตำรวจค้านประกัน เจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉย

พะยูนตาย

ห่วงสถานการณ์พะยูน พบตายถี่จากแหล่งหญ้าทะเลเสื่อมโทรม

“เฉลิมชัย” ห่วงสถานการณ์ “พะยูน” ซึ่งพบตายบ่อยขึ้น สั่งการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและกรมอุทยานแห่งชาติฯ เฝ้าติดตามปัญหา ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขโดยด่วน