มอสโก 24 มี.ค.- กรุงมอสโกของรัสเซียกำลังนำเครือข่ายเทคโนโลยีกล้องจดจำใบหน้าที่ใช้จับตาคนอย่างครอบคลุมกว้างขวางมาใช้ติดตามผู้กักดูอาการเพื่อควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด
กรุงมอสโกใช้เทคโนโลยีนี้ก่อนโควิด-19 มาถึงรัสเซียแม้มีเสียงประท้วงและการร้องเรียนทางกฎหมายเรื่องรัฐเฝ้าจับตาประชาชน ขณะนี้มีชาวกรุงมอสโกหลายพันคนถูกบังคับกักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วันมาตั้งแต่เดือนก่อน เพราะกลับมาจากประเทศที่โรคโควิด-19 ระบาด หรือใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือมีอาการปานกลาง ตำรวจได้บันทึกประวัติคนเหล่านี้และเตือนว่าหากออกมาปะปนกับคน 16 ล้านคนในเมืองหลวงแห่งนี้จะถูกจำคุกสูงสุด 5 ปี หรือถูกเนรเทศหากเป็นชาวต่างชาติ นายเซอร์เก โซเบียนิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโกโพสต์บล็อกเมื่อเดือนก่อนว่า ทางการหมั่นตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอว่ามีการปฏิบัติตามระเบียบ และได้ใช้ระบบจดจำใบหน้าอัตโนมัติ
กรุงมอสโกมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว 170,000 ตัว ติดตั้งตามถนนและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินทั่วเมืองตั้งแต่ทศวรรษก่อน ในจำนวนนี้ 100,000 ตัวเชื่อมต่อกับระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถระบุตัวผู้ที่ถูกกล้องบันทึกแล้ว ที่เหลือจะเชื่อมต่อในเร็ว ๆ นี้ ตำรวจเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า กล้องเหล่านี้ช่วยให้ระบุตัวคนละเมิดระเบียบกักตัวได้เกือบ 200 คน
นอกจากกล้องวงจรปิดแล้ว รัสเซียยังได้ใช้เทคโนโลยีอีกหลายอย่างในการรับมือกับไวรัส เช่น การปรึกษาแพทย์ทางไกล การตรวจดูชั้นวางจำหน่ายสินค้าตามซูเปอร์มาร์เก็ตแบบเวลาจริง การค้นหาและลบข่าวเท็จในสื่อสังคมออนไลน์ สัปดาห์ที่แล้วประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินได้เยี่ยมชมศูนย์ไฮเทคที่ตั้งขึ้นติดตามสถานการณ์ไวรัสและมาตรการของประเทศ รัสเซียพบผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว 438 คนจนถึงวันจันทร์ ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงมอสโก มีผู้ป่วยเสียชีวิต 1 คนแต่ทางการไม่ได้ชี้ว่าเป็นเพราะไวรัส.- สำนักข่าวไทย