21 มี.ค.-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สรุปรายงานการคัดกรองผู้โดยสารตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ (Covid – 19)
ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ EMERGENCY OPERATION CENTER : EOC (COVID – 19) ขอรายงานผลการสรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า – ออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)ประจำวันที่ 21 มีนาคม 2563 โดยมีรายละเอียดดังนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 20 มี.ค.63 เวลา 00.00 – 23.59 น.)
1. สรุปจำนวนเที่ยวบินทั้งสิ้น 621 เที่ยวบิน แบ่งเป็น
1.1 เที่ยวบินระหว่างประเทศ จำนวน 397 เที่ยวบิน
– ขาออกจำนวน 200 เที่ยวบิน
– ขาเข้าจำนวน 197 เที่ยวบิน
1.2 เที่ยวบินภายในประเทศ จำนวน 224 เที่ยวบิน
– ขาออกจำนวน 112 เที่ยวบิน
– ขาเข้าจำนวน 112 เที่ยวบิน
2. สรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ ทสภ. มีจำนวนทั้งสิ้น 44,697 คน
2.1 ผู้โดยสารระหว่างประเทศ จำนวน 25,261 คน แบ่งเป็น
– ผู้โดยสารขาออกจำนวน 16,472 คน
– ผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 8,789 คน
2.2 ผู้โดยสารภายในประเทศ จำนวน 19,436 คน แบ่งเป็น
– ผู้โดยสารขาออกจำนวน 8,072 คน
– ผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 11,364 คน
เมื่อเปรียบเทียบตัวเลขเที่ยวบินและผู้โดยสารจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว พบว่า ทสภ. มีจำนวนเที่ยวบินลดลงร้อยละ 42.2 และจำนวนผู้โดยสารลดลงร้อยละ 62.5
ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทสภ. ได้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 8,789 คน พบผู้โดยสารเข้าเกณฑ์ PUI ต้องนำส่งโรงพยาบาล จำนวน 1 คน และตรวจพบผู้โดยสารทั่วไปมีไข้ 1 คน จึงได้มีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจรอผล Lab ต่อไป
ทั้งนี้ในวันที่ 20 มีนาคม 2563 มีเที่ยวบินที่มาจากประเทศเกาหลี จำนวน 3 เที่ยวบิน (สายการบินไทย 1 เที่ยวบิน KOREAN AIRLINES 2 เที่ยวบิน) มีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 433 คน โดยเป็นผู้โดยสารคนไทยจำนวน 218 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้โดยสารที่เป็นแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลี ที่มีวีซ่าการเดินทางหมดอายุ (Overstay) จำนวน 127 คนและตรวจไม่พบผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ PUI
นอกจากนี้ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทสภ. ยังได้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาออก จำนวนทั้งสิ้น 16,472 คน ไม่พบผู้โดยสารเข้าเกณฑ์ PUI รวมถึงได้มีการเก็บตัวอย่างบุคลากรใน ทสภ. ส่งตรวจ จำนวน 5 คน โดยอยู่ในระหว่างรอผล Lab
และเพื่อให้การอำนวยความสะดวกผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว ทสภ. จึงได้มีการจัดพื้นที่จำนวน 3 จุด ได้แก่ 1.บริเวณหน้า Gate D8 2.บริเวณตรงข้ามทางขึ้น Bus Gate D5 และ3. บริเวณ ชั้น2 ตรงจุดตัดฝั่งตะวันออก เพื่อเป็นจุดให้บริการผู้โดยสารที่จะทำการ Download Application AOT Airports โดยได้จัดให้มีพนักงาน Airport Service คอยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำผู้โดยสารในการ Download Application ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวจะมีความกว้างขวางกว่าเดิม ช่วยลดความคับคั่งและความหนาเแน่นในการเข้าคิวก่อนเข้าจุดตรวจหนังสือเดินทาง และถือเป็นการร่วมสนับสนุนการลดความเสี่ยงโดยเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อีกด้วย
และตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศเรื่องเเนวปฎิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ทำการบินมายังประเทศไทย โดยประกาศดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในเวลา 00.01 น. ของวันที่ 22 มีนาคม 2563 ซึ่งจะส่งผลให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากทุกประเทศทั่วโลกต้องถูกคัดกรองอย่างเข้มข้นตั้งแต่สถานีต้นทาง และเมื่อถึง ทสภ. จะต้องถูกคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิอย่างละเอียด ทสภ. จึงได้มีแผนการรองรับโดยการจัดเตรียมห้อง Holdroom ของ Gate D3 และ D4 ไว้เป็นพื้นที่รองรับผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศที่ผ่านจุดคัดกรองแล้วตรวจพบว่ามีอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส ซึ่งจะต้องนำมาแยกตัวกักไว้ต่างหากก่อนจะนำส่งไปตรวจตามขั้นตอนเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะแบ่งเป็นห้องของผู้โดยสารชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งห้องดังกล่าวจะเริ่มเปิดใช้งานในวันที่ 21 มีนาคม 2563 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป.-สำนักข่าวไทย