กรุงเทพฯ 19 มี.ค. – กรมปศุสัตว์ฝังทำลายซากสัตว์ของกลางที่ตรวจยึดจากการนำเข้าผิดกฎหมาย มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท สร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภค ย้ำเนื้อและผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ทุกชนิดต้องตรวจสอบที่มาและรับรองมาตรฐานการผลิตที่มีคุณภาพ
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานพิธีฝังทำลายซากสัตว์ลักลอบนำเข้ามาเป็นสินค้าปศุสัตว์ที่ด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี โดยมีนางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ผู้แทนอธิบดีกรมศุลกากร และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิธี โดยกล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายเร่งด่วนให้กรมปศุสัตว์ดูแลสุขภาพสัตว์การควบคุมป้องกันและกำจัดโรคระบาดสัตว์ รวมถึงบังคับใช้กฎหมายควบคุมเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อในสัตว์
ทั้งนี้ ได้กำหนดการนำเข้า ส่งออก และนำผ่าน ซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ว่า ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายเป็นไปตามกฎกระทรวง การนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ พ.ศ. 2563 ต้องปฏิบัติตามประกาศกรมปศุสัตว์ เรื่อง การขออนุญาต การออกใบอนุญาต วิธีการนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ พ.ศ. 2558 วัตถุประสงค์เพื่อการป้องกันโรคระบาดสัตว์ไม่ให้แพร่กระจายเข้าสู่ประเทศไทย หากพบว่าไม่ปฏิบัติตามจะมีการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดและยึดซากสัตว์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าไปทำลายตามข้อกฎหมาย ซึ่งการปฏิบัติงานตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้ลักลอบนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ (ซากสัตว์) เป็นอีกหนึ่งมาตรการที่กรมปศุสัตว์ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง
นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวต่อว่า สินค้าปศุสัตว์ทุกชนิดที่นำมาจำหน่ายต้องผ่านการตรวจสอบและได้รับการตรวจรับรอง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนว่าบริโภคสินค้าปศุสัตว์ได้อย่างปลอดภัย มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน อีกทั้งการป้องกันเชื้อโรคระบาดสัตว์จากต่างประเทศ ซึ่งอาจติดมากับสินค้าปศุสัตว์ (ซากสัตว์) ที่เป็นพาหะของโรคระบาด ทำให้ไม่เกิดความเสียหายต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์และอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่มีมูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาทต่อปี.-สำนักข่าวไทย