ลอสแอนเจลิส 19 มี.ค.- ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียที่มีประชากรมากที่สุดในสหรัฐเตือนว่า คนจรจัดกว่า 60,000 คน ในรัฐนี้อาจติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ภายในสองเดือน ทำให้ระบบสาธารณสุขยิ่งตึงตัวมากขึ้นอีกไป
นายแกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียโพสต์เฟซบุ๊กถึงคนทั้งรัฐว่า ผู้ป่วยโควิด-19 จะต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณร้อยละ 20 ทำให้มีความจำเป็นต้องเพิ่มเตียงรองรับและอาจล้นความสามารถหากแบบจำลองที่คำนวณไว้เป็นจริง ทางการทำแบบจำลองไว้ว่า ในช่วง 8 สัปดาห์หน้า หากคนจรจัดในรัฐนี้ติดเชื้อร้อยละ 56 จากทั้งหมด 108,000 คน ก็จะมีผู้ป่วยกว่า 60,000 คน ไม่เพียงสร้างความกังวลอย่างยิ่งให้แก่ประชาชนที่มีอยู่ แต่จะเป็นภาระใหญ่ให้แก่ระบบสาธารณสุข ความสามารถในการเคลื่อนย้ายคนเข้าออกที่พักพิงอย่างปลอดภัยโดยไม่ติดเชื้อหรือแพร่เชื้อให้แก่ผู้อื่น รัฐแคลิฟอร์เนียพบผู้ป่วยแล้ว 598 คนจนถึงวันพุธตามเวลาท้องถิ่น เสียชีวิต 17 คน
ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียเผยว่า ได้ออกคำสั่งฝ่ายบริหารจ่ายเงิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,273 ล้านบาท) ให้แก่เมืองและเทศมณฑลทั่วรัฐนำไปบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับคนจรจัดและได้ระดมรถพ่วง 1,300 คันมาเป็นที่พักชั่วคราว ขณะเดียวกันได้ออกคำสั่งฝ่ายบริหารนำเงิน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16,365 ล้านบาท) ปรับเปลี่ยนโรงแรมเป็นที่กักตัวคนจรจัดที่ติดเชื้อ นอกจากนี้ยังได้หารือกับประธานาธิบดีเรื่องนำเรือการแพทย์มาจอดนอกชายฝั่งเพื่อรองรับผู้ป่วยเพิ่มเติมและตั้งโรงพยาบาลสนามด้วย.-สำนักข่าวไทย