นิวยอร์ก 10 มี.ค. – ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐทำสถิติตกมากที่สุดในวันเดียว และต้องใช้เซอร์กิต เบรกเกอร์ เป็นครั้งแรกระหว่างการซื้อขายเมื่อวันจันทร์
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงมากที่สุดในวันเดียว เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยปิดตลาดการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 2,013 จุด และมีช่วงหนึ่งที่ต้องใช้เซอร์กิต เบรคเกอร์ หรือการพักการซื้อขาย เป็นเวลา 15 นาที หลังจากดัชนี ปรับตัวลดลงถึง 7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ต้องใช้ มาตรการดังกล่าว นับตั้งแต่เริ่มนำระบบเซอร์กิต เบรคเกอร์ เข้ามาใช้เมื่อปี 2556
ด้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ระบุว่า เหตุที่ทำให้หุ้นตกแรงเป็นเพราะข่าวปลอม และการเจรจาระหว่างกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน โดยทรัมป์ได้ทวีตข้อความระบุว่า ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียกำลังเถียงกันเรื่องราคาน้ำมัน ซึ่งเรื่องน้ำมันและข่าวปลอมคือสาเหตุที่ทำให้หุ้นตก
ทรัมป์ยังทวีตต่อด้วยว่า ปีที่แล้วมีคนอเมริกันถึง 37,000 คน เสียชีวิตเพราะไข้หวัดใหญ่ แต่ปีที่แล้วสหรัฐก็ยังไม่เห็นจำเป็นต้องปิดอะไร ชีวิตและเศรษฐกิจก็ยังคงดำเนินต่อไปได้ แต่ขณะนี้ในสหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แค่ 546 คน และเสียชีวิตแค่ 22 คน เท่านั้น ที่ผ่านมาทรัมป์มักยกว่าความเฟื่องฟูของตลาดหุ้นสหรัฐ เป็นความสำเร็จของเขา และพยายามใช้ประเด็นดังกล่าวมาเป็นประเด็นหาเสียง เพื่อป้องกันตำแหน่ง ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมีขึ้น.- สำนักข่าวไทย