เชียงใหม่ 27 ก.พ. – ธ.ก.ส.ดำเนินโครงการประกันภัยลำไยจากภัยแล้งต่อเนื่องในปี 2563 ซึ่งปีนี้ขยายพื้นที่ครอบคลุม 3 จังหวัดที่เป็นแหล่งปลูก บรรเทาความเดือดร้อนช่วยเหลือผู้ปลูกลำไยที่เผชิญภัยแล้ง
ชาวสวนลำไยที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ สำรวจสภาพต้นลำไย บนพื้นที่ 16 ไร่ ที่กำลังออกดอกในช่วงนี้ หลังจากช่วงที่ผ่านมาอากาศหนาวเย็น ทำให้เปอร์เซ็นต์การติดดอกสูง แต่ดินฟ้าอากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ จึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการประกันภัยพืชผลลำไยจากภัยแล้งต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อบรรเทาความเสี่ยง หากเกิดภัยแล้งรุนแรง
ส่วนคุณป้าเจ้าของสวนรายนี้ แม้จะมีสวนลำไยเพียง 1 ไร่ แต่ก็ทำประกันภัยไว้ชดเชยความเสี่ยงจากภาวะฝนแล้ง หลังจากปีที่แล้วกู้เงินจาก ธ.ก.ส. มาลงทุนทำสวน 150,000 บาท จ่ายเบี้ยประกันภัย 1 หน่วยความคุ้มครอง แต่ผลผลิตเสียหายเกือบทั้งหมด ได้รับเงินชดเชยมาช่วยผ่อนปรนภาระหนี้สิน
โครงการประกันภัยพืชผลลำไยจากภัยแล้งของ ธ.ก.ส. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และบริษัทประกันภัยชั้นนำ จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยขยายพื้นที่รับประกันภัยลำไยจาก จ.เชียงใหม่ ไปถึง จ.ลำพูน และ จ.น่าน ในปีนี้ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ปลูกลำไยราวร้อยละ 69 ของพื้นที่ปลูกลำไยทั้งประเทศ คุณสมบัติของผู้ทำประกัน คือ เป็นเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ที่กู้เงินเพื่อเพาะปลูกลำไย อัตราค่าเบี้ยประกันเพิ่มจากปีที่แล้วเป็น 399 บาท ต่อ 1 หน่วยความคุ้มครอง
ธ.ก.ส.คาดว่า ฤดูกาลเพาะปลูกปีนี้ จะมีชาวสวนลำไยสมัครเข้าร่วมโครงการประกันภัยลำไยจากภัยแล้งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 400% หลังจากประสบความสำเร็จมีผู้ปลูกลำไยใน 24 อำเภอของ จ.เชียงใหม่ เข้าร่วมโครงการ 1,053 ราย พื้นที่เป้าหมาย 100,000 ไร่ โดยสามารถจ่ายเงินชดเชยครบ 100% รวมเงินชดเชยเกือบ 3.5 ล้านบาท ชาวสวนสามารถนำเงินชดเชยไปฟื้นฟูการเพาะปลูกในฤดูกาลผลิตใหม่ ช่วยสร้างทางเลือกในการบริหารจัดการความเสี่ยง และสร้างภูมิคุ้มกันตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง. – สำนักข่าวไทย