ตั้งคณะทำงานยึดทรัพย์ชดใช้คดีข้าวจีทูจี

กรุงเทพฯ 26 ก.พ. –  5 หน่วยงาน ตั้งคณะทำงานสืบทรัพย์ เพื่อยึดทรัพย์ตามคำสั่งศาลชดใช้คดีข้าวจีทูจี หวั่นปล่อยไว้นานจะมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินติดตามกลับยาก สร้างความเสียหายรัฐมากขึ้น


นายศุภฤกษ์ เอี่ยมลออ รักษาการผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กล่าวว่า 5 หน่วยงานรัฐ ประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กรมการค้าต่างประเทศ องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจการบังคับคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ ลงวันที่ 6 กันยายน 2562 โดยเห็นตรงกันให้จัดทำสรุปขั้นตอนการบังคับคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐกับจำเลยที่เป็นเอกชน คดีหมายเลขคดีที่ อม.อร 3 – 4 / 2560 คดีหมายเลขแดงที่ อม.อร 2 – 3 / 2562 

นายศุภฤกษ์ กล่าวว่า คำพิพากษาส่วนแพ่งให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายร่วมทั้ง 5 ราย โดยสำนักงานการบังคับคดี สำนักงานอัยการสูงสุดออกหมายบังคับคดี เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 และแจ้งหมายบังคับคดีให้ผู้เสียหายทั้ง 5 รายครบถ้วนแล้ว จึงให้ผู้เสียหายทั้ง 5 รายแจ้งยืนยันการบังคับคดีและตรวจสอบสถานะของจำเลยต่อสำนักงานบังคับคดี เพื่อตรวจสอบข้อมูลทรัพย์สินที่จำเลยมี 


ทั้งนี้ ที่ผ่านมาผู้เสียหายทั้ง 5 ราย สืบทรัพย์สินของจำเลยลักษณะต่างคนต่างดำเนินการ จึงเห็นว่าควรตั้งคณะทำงานสืบทรัพย์สิน เพื่อดำเนินการยึดหรืออายัดเพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและประหยัดเวลา ตลอดจนไม่เป็นการซ้ำซ้อนในการสืบทรัพย์ของผู้เสียหาย  ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ทำหน้าที่เลขานุการของคณะทำงานดังกล่าว โดยผู้เสียหายทั้ง 5 รายต้องเป็นผู้จัดส่งข้อมูลการให้คณะทำงานฯ เพื่อดำเนินการร่วมกัน

นายศุภฤกษ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้บางหน่วยงานเห็นว่าสมควรเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความเกี่ยวกับขั้นตอนการสืบทรัพย์และบังคับคดี เนื่องจากคำพิพากษากกำหนดให้ผู้เสียหายทั้ง 5 ราย เป็นผู้เสียหายร่วม โดยไม่ได้แบ่งมูลค่าความเสียหายของแต่ละราย แต่ท้ายที่สุดเมื่อมีการได้รับชดใช้หนี้ตามคำพิพากษาก็ต้องส่งเงินให้กระทรวงการคลัง จึงเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องตีความข้อกฎหมายใดเพิ่ม รวมทั้งไม่ต้องรออัยการทำหน้าที่สืบทรัพย์ เพราะอัยการไม่ได้เป็นผู้เสียหาย ขณะนี้ อ.ต.ก.สืบทรัพย์ของจำเลยไปบ้างแล้ว เมื่อตั้งคณะทำงานร่วม 5 หน่วยงานจะยิ่งทำให้การบังคับคดีตามคำพิพากษารวดเร็วขึ้น หากปล่อยเวลาเนิ่นนาน เกรงจะมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน ทำให้ติดตามลำบาก สร้างความเสียหายต่อรัฐยิ่งขึ้นไปอีก

ในการประชุมครั้งนี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ชี้แจงเรื่องการฟ้องริบทรัพย์สินในความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งบางคดีพิพากษาเสร็จ บางคดีอยู่ระหว่างพิจารณา ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า กรณีริบทรัพย์สินดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายฟอกเงิน ส่วนการบังคับคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐตามคำพิพากษานี้เป็นคนละส่วนกัน ซึ่งจะต้องร่วมกันดำเนินการให้เร็วที่สุด เนื่องจากการบังคดีมีอายุความ 10 ปี ถ้าทำไม่ทันจะยึดทรัพย์กลับมาเป็นของแผ่นดินได้ไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง