ราชบุรี 25 ก.พ. – เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย เร่งเคลียร์เส้นทางรถไฟชนกันที่สถานีปากท่อ จ.ราชบุรี ขณะที่สาเหตุยังรอผลสอบที่ชัดเจน ด้าน ก.คมนาคม สั่งการรถไฟฯ เยียวยาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเต็มที่
จากเหตุการณ์ขบวนรถไฟส่งสินค้าชนกับขบวนรถด่วนพิเศษ กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก ที่สถานีรถไฟปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี จนทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (24 ก.พ.) ล่าสุดเจ้าหน้าที่กู้ภัยของการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ทำการกู้โบกี้รถไฟในส่วนที่เหลือ พร้อมซ่อมแซมหมอนรางในส่วนที่ได้รับความเสียหาย จนสามารถเปิดเดินรถไฟตามปกติแล้ว 1 เส้นทาง เหลือเพียงเส้นทางที่ใช้หลีกยามที่มีรถไฟสวนทางกัน ซึ่งเป็นรางที่ทำให้เกิดการชนกัน เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งดำเนินการ เพื่อให้สามารถนำตู้โบกี้ที่ตกอยู่ และส่วนล้อที่หลุดออกจากกัน ออกนอกราง เพื่อเคลียร์ทีละขั้นตอน
น.ส.พัชรี เงินคงพันธุ์ แม่ค้าขายของชำริมทางรถไฟ ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เล่าเหตุการณ์ว่า รถไฟขบวนที่มีผู้โดยสารจอดอยู่นานแล้ว จู่ๆ ก็มีรถไฟอีกขบวนวิ่งมาชน เสียงดังสนั่นเหมือนเสียงฟ้าผ่า จึงวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ก่อนจะกลับมาดูในจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พบว่ารถไฟพังเสียหาย และมีคนเจ็บจำนวนมาก
เร่งสอบปากคำหาสาเหตุรถไฟชนกัน
พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางไปที่ สภ.ปากท่อ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกล่าวว่า สาเหตุที่เกิดขึ้น ขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ เนื่องจากต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเข้ามาตรวจสอบ แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ จะต้องถูกเรียกมาสอบปากคำ ส่วนผู้โดยสารรถไฟ พนักงานสอบสวน สภ.ปากท่อ ได้สอบปากคำไปบ้างแล้ว ซึ่งจะต้องเร่งรัดให้เร็วที่สุด
นายพงษ์ศักดิ์ บุญสุข ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเดินรถ ภาค 4 กล่าวว่า สาเหตุที่ชัดเจนต้องให้คณะกรรมการท้องถิ่นมาดูรายละเอียด ส่วนขั้นตอนการตรวจสอบต้องดูทุกอย่าง เช่น รางรถไฟ ประแจอยู่ในสภาพดีหรือไม่ ได้รับสัญญาณชัดเจนหรือไม่ ต้องดูแลทั้งหมด
รมว.คมนาคม สั่งเยียวยาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเต็มที่
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า มาตรการดูแลผู้บาดเจ็บ กระทรวงฯ ได้ให้การรถไฟฯ รับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล โดยออกหนังสือรับรองให้โรงพยาบาล เพื่อเรียกเก็บเงินจากการรถไฟฯ กรณีผู้บาดเจ็บต้องไปรับการรักษาพยาบาลต่อเนื่องในพื้นที่อื่น การรถไฟฯ รับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลต่อเนื่อง กรณีผู้บาดเจ็บต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา สามารถเลือกเดินทางโดยรถไฟ หรือพาหนะอื่น การรถไฟฯ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าว และกรณีทรัพย์สินเสียหาย จะมีคณะกรรมการพิจารณาเยียวยาค่าเสียหายต่อไป
นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟฯ กล่าวว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นระบบทางเดี่ยว ซึ่งปกติขบวนรถไฟไม่สามารถหลีกทางกันบริเวณกลางทางได้ ต้องให้รถขบวนหนึ่งจอดรอก่อน เพื่อเข้าทางหลีก ซึ่งตามปกติระบบประแจจะเป็นระบบไฟฟ้า แต่ขณะนี้เป็นช่วงระหว่างก่อสร้างรถไฟทางคู่ ทำให้งดใช้ระบบประแจไฟฟ้าชั่วคราว พร้อมยอมรับว่า การก่อสร้างมีโอกาสเกิดเหตุ จึงสั่งการให้ผู้รับเหมาใช้ความระมัดระวัง กรณีนี้จะเป็นความผิดของพนักงาน หรือเกิดจากระบบทางเทคนิค ต้องรอคณะกรรมการเหตุอันตรายสรุปอีกครั้ง ขณะเดียวกัน เรื่องการประเมินความเสียหายก็ยังไม่สามารถประเมินได้
สำหรับผู้บาดเจ็บที่เป็นผู้โดยสาร 40 คน และเป็นพนักงานการรถไฟฯ 4 คน ขณะนี้มี 1 ราย ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนที่เหลือได้รับการรักษาจนอาการดีขึ้นและส่งกลับบ้านแล้ว. – สำนักข่าวไทย