fbpx

สธ.แถลงพบบุคลากรทางการแพทย์ ติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 รายแรก

สธ.15 ก.พ.-สธ.เผยพบบุคลากรการแพทย์ติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 รายแรก เป็นหญิงอายุ 35 ปี ทำงานใกล้ชิดผู้ป่วยราย 27 ขณะดูแลไม่สวมหน้ากากอนามัย ตอนนี้รักษาตัวบำราศนราดูร เตรียมประชุม สสจ.ทั่วประเทศ แพทย์ รพศ.รพท.เพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อใน รพ. ส่วนขวัญและกำลังใจพบว่าทุกคนยังดีอยู่ ภาพรวมพบป่วย 34 คนรักษาหาย 14 คนเหลือรักษาตัวใน รพ.20 คน


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองสำนักโรคติดต่อทั่วไป และ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 1 คน เป็นบุคลากรทางการแพทย์ เพศหญิงอายุ 35 ปี ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยอาการคนที่ 27 ซึ่งตอนแรกอาการไม่รุนแรง จากการสอบสวนโรคจึงทราบ ขณะที่ปฎิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย จึงเป็นสาเหตุให้ติดเชื้อ ขณะนี้มารักษาอยู่ที่ห้องแยกโรคสถาบันบำราศนราดูรและจากการติดตามพบว่าบุคลากรการแพทย์อาศัยอยู่ตามลำพัง ทำให้ไม่มีผู้เสี่ยงใกล้ชิดเพิ่ม และได้ให้ติดตามบุคลากรการแพทย์อื่น ๆ ที่ดูแลผู้ป่วยอีก 24 คน ผลการตรวจยืนยันเป็นลบ ไม่ติดเชื้อ แต่ให้มีการเฝ้าระวัง 14 วัน ตามมาตรการควบคุมโรค


ทั้งนี้  จากรายงานต่างประเทศพบว่า มีบุคลากรทางการแพย์ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แล้ว 1,716 คน คิดเป็นร้อยละ 3.8 ของผูติด้ชื้อที่ได้รับการยืนยันที่ประเทศจีนและมีบุคลากรทางการแพทย์เสียชีวิต 6 คน คิดเป็นร้อยละ 0.4 ส่วนวันนี้ก็มีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน อายุ 56 ปี ทำให้มีผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 14 คนเหลือรักษาตัวใน รพ.20 คน ภาพรวมมีผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนา 2019 จำนวน  34 คน


นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า สำหรับขวัญและกำลังใจของบุคลากรทางการ แพทย์ยังดีอยู่ แต่ก็เป็นการแสดงเตือนให้เห็นว่าอย่าได้ประมาท  กลไกการเฝ้าระวังโรคต้องเข้มแข็ง บุคลากรต้องสวมเครื่องป้องกัน ขณะเดียวในรายผู้ป่วยอาการหนัก 2 คน ได้แก่ คนป่วยวัณโรคร่วม โคโรนาและผู้ป่วยมีอาการรุนแรง 33 ปี เตรียมนำยาต้านไวรัสจากต่างประเทศ มาใช้ร่วมรักษาได้แก่ยาฟาวิพิราเวียร์ รักษาไข้เลือดออกอิโบลา ร่วมกับการนำน้ำเหลือง(แอนติบอดี)ของคนขับรถแท๊กซี่ที่รักษาหายไว้มาฉีด เพื่อกระตุ้นภูมิให้กับ ผู้ป่วย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในวันจันทร์ 17 ก.พ.นี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเตรียมประชุมระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศและบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไปเพื่อหารือถึงมาตรการกลไกการต้องระวังและป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในโรงพยาบาลเนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงจำเป็นต้องเฝ้าระวังและป้องกันขณะเดียวกันเตรียมหารือเรื่องของการอนุมัติงบประมาณสนับสนุนด้านขวัญและกำลังใจให้กับบุคลากรที่ปฎิบัติหน้าที่ด้วย

นพ.โสภณ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการเฝ้าระวังป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะทำในกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่นักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศจนถึงการระบาดเฟสที่ 2.คือในกลุ่มทำงานที่ใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวหรือที่มีการติดต่อประสานงานกันกับกลุ่มนักเดินทางจากนี้จะกลับมาเน้นเรื่องการเฝ้าระวังและป้องกันในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ถือเป็นกลุ่มสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโดยตรงเช่นกัน

ส่วนลูกเรือเวสเตอร์ดัมที่ขณะนี้เดินทางเข้ามาไทยเพื่อมาต่อเครื่องที่ สนามบินสุวรรณภูมิมีรวม 9 คน เป็นต่างชาติ 8 คน คนไทย 1 คนทุกคนไม่มีไข้ ทั้งหมดเดินทางออกจากไทยไปแล้ว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553