“สมศักดิ์” เยือนอุบลฯ เปิดเวทีคนไทยห่างไกล NCDs ครั้งที่ 5

26 พ.ย.- “สมศักดิ์” เยือนอุบลฯ เปิดเวทีคนไทยห่างไกล NCDs ครั้งที่ 5 ปลื้ม อสม.อุบลฯ ตื่นตัวนับคาร์บ ทำน้ำหนักลด มั่นใจช่วยคนไทย 50 ล้านคน ลดโรค โปรยยาหอมเงินกู้ร้อยละ 6 พร้อมให้กู้ปีหน้า เตรียมทำ MOU ธ.ก.ส.ภายในสิ้นปีนี้ เผยผลักดัน พ.ร.บ.อสม.เต็มที่


วันที่ 26 พ.ย.ที่อุบลราชธานี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดงานการขับเคลื่อนนโยบายคนไทยห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ครั้งที่ 5 ในเขตสุขภาพที่ 10 อุบลราชธานี ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่อุบลราชธานี มุกดาหาร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และยโสธร โดยมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นพ.ภูวเดช สุระโคตร นพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองปลัดกระทรวง สาธารณสุข ภก.วีระชัย นลวชัย รักษาการผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 10 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง นายโฆษิต สุวินิจจิต นายเอกฤทธิ์ ศาตะมาน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คณะผู้บริการกระทรวง พร้อมด้วย สส.พรรคเพื่อไทย นำโดย นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ สส.เขต 1 น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี สส.อุบลราชธานี เขต 4 น.ส.ธัญธารีย์ สันตพันธุ์ สส.อุบลราชธานี เขต 6 น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพันลภ สส.อุบลราชธานี เขต 7 นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพันลภ อดีตสส.เพื่อไทย อสม.เขตสุขภาพที่ 9 และ 10 เข้าร่วมงานประมาณ 4,000 คน และเข้าร่วมผ่านระบบออนไลน์อีกจำนวน 200,000 คน

ทั้งนี้ เมื่อคณะนายสมศักดิ์ มาถึง อสม.ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นนำผ้าขาวม้ามาผูกเอว พร้อมทั้งมีการชูป้ายไฟ อาทิ รักสมศักดิ์ รัฐมนตรีพานับคาร์บ เป็นต้น


นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดพิธีตอนหนึ่งว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs เป็นสาเหตุหลักของการเจ็บป่วย และการเสียชีวิตของคนไทย มีส่วนทำให้ประเทศชาติสูญเสียมหาศาล

ทั้งค่ารักษาทางตรง และมูลค่าเศรษฐกิจทางอ้อม นโยบายคนไทยห่างไกล NCDs ให้ความสำคัญกับการส่งเสริม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ส่งเสริมวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะการกิน การนับคาร์บ คำนวณสัดส่วนอาหาร ไปจนถึงการออกกำลังกาย จังหวัดอุบลราชธานีมีผู้ป่วยเบาหวาน และความดันโลหิตสูง รวมกันประมาณ 210,000 คน ดังนั้น วันนี้ ถือเป็นโอกาสดี ที่ตนได้มาเป็นประธาน ในพิธีเปิดงานการขับเคลื่อนนโยบาย คนไทยห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs ครั้งที่ 5 ที่จังหวัดอุบลราชธานี

งานในวันนี้จึงเป็นหมุดหมายสำคัญ ที่เราทุกคน ทั้งท่านผู้บริหาร บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข พี่น้อง อสม. และพี่น้องประชาชนชาวอุบลราชธานีจะได้ร่วมกันทำงาน เริ่มนับคาร์บ เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ป่วยรายใหม่ และลดความรุนแรงของโรคในผู้ป่วยรายเดิม เพื่ออนาคตของระบบสาธารณสุขที่ยั่งยืน และประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชนต่อไป


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การนับคาร์บเชื่อว่าอสม.นับคาร์บได้ ถ้าเข้าใจแล้วต้องไปบอกผู้คนที่ท่านดูแลอยู่ 1 ต่อ 50 คน และถ้า 50 ล้านคน เข้าใจนับคาร์บการเจ็บป่วยก็จะลดลง จากสถิติการเจ็บป่วยเสียชีวิตจาก NCDs เสียชีวิตมากกว่า 4 แสนราย มีผู้ป่วยรายใหม่ปีละ 2 ล้านราย สูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจจาก NCDs 1.6 ล้านบาทต่อปี ฉะนั้น อสม.ทุกท่านต้องช่วยกัน และอยากจะพูดถึงความคืบหน้าร่างพ.ร.บ.อสม.ที่ตอนนี้ยังติดอยู่ที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง แม้ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเข้าใจในเนื้อหาต่างๆ แล้ว แต่กรมฯ ยังติดใจในเรื่องกองทุน ซึ่งจะเร่งทำความเข้าใจ แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทย สส. ได้มีการเสนอร่างดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภา เชื่อว่าร่างพ.ร.บ.อสม.จะสำเร็จในรัฐบาลนี้ นอกจากนี้ยังมีข่าวดีเรื่องการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ จากเดิมพี่น้องกู้ดอกเบี้ยร้อยละ 8 แต่ตนได้เจรจากับธนาคาร ธ.ก.ส.เรียบร้อยแล้ว จะได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 6 คาดว่าปีหน้าจะเปิดให้กู้ได้ ขณะนี้อยู่ระหว่าง MOU น่าจะลงนามเสร็จสิ้นปีนี้

นายสมศักดิ์ บรรยายการนับคาร์บว่า เป็นการเก็บข้อมูลจากสถิติเป็นร้อยปี ของนักวิทยาศาสตร์ Harris Benedict Equation การคำนวณปริมาณการรับประทานคาร์โบไฮเดรต หรือ ข้าวของแต่ละบุคคลในแต่ละวัน เป็นการคำนวณจากอายุ ส่วนสูง น้ำหนัก กิจกรรมทางกายในแต่ละวัน หรือเรียกว่า กินคาร์บ จะคำนวณออกมาเป็นปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่อวันที่เหมาะสมของแต่ละคน ซึ่งกำหนดเป็นทัพพีมาตรฐานที่ 15 กรัมต่อทัพพี โดยหน่วยจะออกมาเป็น คาร์บ เช่น หากคำนวณได้ 6 คาร์บ ก็จะเท่ากับทานข้าวได้วันละ 6 ทัพพีมาตรฐาน ส่วนที่หลายคนกังวลว่า ทานข้าวน้อยจะหิวนั้น ตนขอย้ำว่า ไม่ต้องตกใจ เพราะกินอย่างอื่นเพิ่มได้ เช่น ปลา หมู ไก่ โดยตนขอให้ลดข้าวไปก่อน ถ้าคนทำงานหนัก ก็ยังสามารถกินข้าวได้ตามปกติ แต่คนใกล้ป่วย หรือ อ้วน ก็ต้องนับคาร์บ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะป่วยจากกลุ่มโรค NCDs

ต่อมานายสมศักดิ์ เชิญนายสมคิด และน.ส.ตรีชฎา ขึ้นเวทีร่วมสาธิตการนับคาร์บ พร้อมทั้ง อสม.ร่วมขึ้นเวทีเพื่อแข็งขันการลดน้ำหนักจากการนับคาร์บ ประมาณ 12 คน โดยน.ส.ตรีชฎา ขึ้นเวทีเล่าาประสบการณ์นับคาร์บหลังจากนับคาร์บแล้ว ทำให้น้ำหนักลด จากเดิม 85 เหลือ 69 ตั้งเป้าให้ได้ 55 กิโลกรัม

ขณะที่ อสม.ได้เล่าว่า เมื่อรับทราบนโยบายนายสมศักดิ์ ให้มีการนับคาร์บ ก็เลยเริ่มคำนวณและรับประทานคาร์บตามผลที่ออกมา ปรากฎว่า น้ำหนักลดลงประมาณ 3 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์ ทำให้นายสมศักดิ์ยิ้มอย่างปลาบปลื้มใจ จากนั้นนายสมศักดิ์ได้เปิดพิธีอย่างเป็นทางการ โดยตักเส้นก๋วยจั๊บญวนลงชาม .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จภายในเที่ยงคืนนี้

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค. – รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จสิ้นภายในเที่ยงคืนนี้ ด้าน พฐ.ร่วมตรวจหาสาเหตุตกรางกับนายช่างรถไฟ สันนิษฐานเบื้องต้นนอตล็อกประแจสับรางหลุด ส่วนผู้บาดเจ็บ 10 ราย ออกจาก รพ.แล้ว ความคืบหน้าเหตุรถไฟขบวนด่วนพิเศษ สุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ ปลายทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประสบอุบัติเหตุตกราง ก่อนถึงสถานีรถไฟกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 100 เมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 5 วันนี้ โดยตู้โดยสารที่เกิดเหตุคือ 3 ตู้สุดท้าย 10-12 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ผู้โดยสารตู้ที่ตกราง เจ้าหน้าที่จัดรถบัสนำส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ส่วนตู้โดยสารที่ไม่ตกราง เดินทางต่อจนถึงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ล่าสุดตำรวจ สภ.กุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจหาสาเหตุรถไฟตกราง ร่วมกับนายช่างวิศวกรของการรถไฟฯ อีกครั้ง จากการตรวจสอบสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากนอตยึดอุปกรณ์ประแจตัวสับรางหลุด ขณะที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว 9 ตู้ เหลือ 3 ตู้สุดท้าย ทำให้ไม่สามารถบังคับให้วิ่งตามไปด้วยกันได้ จึงถูกกระชากหลุดด้วยแรงเฉื่อยของความเร็วรถไฟแล้วตกจากราง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ […]

“บุ๋ม” รับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ หลวงพ่อวราห์ แจกทหารชายแดน

9 ส.ค. – “บุ๋ม ปนัดดา” เริ่มภารกิจโฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. วันแรก เข้ารับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ จากหลวงพ่อวราห์ นำไปมอบให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา สร้างขวัญกำลังใจแนวหน้า บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี โฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. ที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือบิ๊กเล็ก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่งตั้ง เข้าพบหลวงพ่อวราห์ พระเทพวชิระวิทยานุสิฐ วราห์ ปุญฺญวโร ตำนานผู้สร้างพญาครุฑ เพื่อรับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ ไปแจกให้ทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจทหารแนวหน้า บุ๋ม ปนัดดา กล่าวว่า ได้รับการประสานจากหลวงพ่อวราห์ ให้เข้ามารับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ นำไปมอบให้กับทหารชายแดน เพราะทหารต้องการขวัญและกำลังใจ ดังนั้น อะไรที่ทำให้ทหารอุ่นใจและมีกำลังใจก็จะทำให้ สำหรับผ้ายันต์หลวงพ่อวราห์ แห่งวัดโพธิ์ทอง บางมด กรุงเทพฯ ผ้ายันต์รุ่นบูชาครู จำนวน 2,000 ผืน และเหรียญครุฑ รุ่นเฉพาะกิจ จำนวน 2,000 เหรียญ ที่บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี […]

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]