fbpx

เปิดโครงการ “ปลูกเพื่อป(ล)อด ล้านต้น ลด PM2.5”

กรุงเทพฯ 3 ก.พ. – กระทรวงเกษตรฯ เปิดตัวโครงการ “ปลูกเพื่อป(ล)อด ล้านต้น ลด PM2.5” โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่ทำเนียบรัฐบาลพรุ่งนี้ (4 ก.พ.) เตรียมมอบกล้าไม้ที่มีคุณสมบัติดูดซับฝุ่นละอองขนาดเล็กได้รวม 1 ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียวทั่วกรุงเทพฯ 


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (4 ก.พ.) เวลา 08.30 น. ที่หน้าตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะเป็นประธานในงานประชาสัมพันธ์การจัดงาน “ปลูกเพื่อป(ล)อด ล้านต้น ลด PM2.5” ภายใต้โครงการ Green City by MOAC เพื่อบรรเทาปัญหาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญมลพิษทางอากาศฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ที่สูงเกินมาตรฐานทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งหลายจังหวัดภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งจำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ดังนั้นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กรุงเทพมหานคร สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน จัดกิจกรรม “ปลูกเพื่อป(ล)อด ล้านต้น ลด PM2.5” ภายใต้โครงการ Green City by MOAC ในวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 9.00 น. โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน โดยงานจัดขึ้นที่พาร์คพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน 

ทั้งนี้ภายในงานจะแจกจ่ายต้นกล้าที่สามรถดูดซับฝุ่น PM2.5 ได้ 6 ชนิดคือ กระดุมทอง ไม้ประดับตระกูลคล้า (คล้านกยูง) ไม้ตระกูลว่าน (เศรษฐีเรือนใน) ไม้ตระกูลเฟิร์น (เฟิร์นขนนก-เฟิร์นเจ้าฟ้า) ไม้เลื้อย (ตีนตุ๊กแก) และต้นสนไซเปรส เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปลูกต้นไม้ทั้งในและนอกบ้าน สถานที่ทำงาน ริมถนน ตลอดจนสวนสาธารณะ รวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนและเกษตรกรที่สนใจเพาะพันธุ์เพื่อจำหน่ายเป็นอาชีพเสริมอีกทางหนึ่ง


นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ผลวิจัยระดับนานาชาติรองรับว่า ต้นไม้เกือบทุกประเภทมีความสามารถในการดักเก็บฝุ่นไว้ตามใบและก้าน ยิ่งมีใบหนาแน่นหลายชั้น ใบถี่ ใบมีร่องลึก ใบและก้านมีขน ความสามารถในการดักเก็บฝุ่นจะสูงตามพื้นที่ผิวที่มี ทั้งนี้เพื่อสร้างภูมิต้านทานของเมืองบนฐานแนวคิดเกษตรและพืชสวนซึ่งนำไปสู่การเป็น Green City โดยนำร่องในกทม. เป็นแห่งแรกและในอนาคตจะขยายโครงการไปสู่เมืองใหญ่ทั่วประเทศต่อไป โดยนักวิจัยจากวช. ระบุว่า อย่างไรก็ตาม หากร่วมกันปลูกต้นไม้ได้เพียงร้อยละ 10 ของพื้นที่กรุงเทพมหานครจะสามารถลดจำนวนวันที่ฝุ่น PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานได้ถึง 1 – 3 วัน

สำหรับกิจกรรมวันพรุ่งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเยี่ยมชมนิทรรศการแสดงต้นกล้าต่างๆ ที่จะนำไปมอบในงาน พร้อมชมการสาธิตการลงทะเบียนระบบออนไลน์เพื่อเข้าร่วมโครงการรับต้นกล้าผ่านwww.green-city.online  ซึ่งจะเปิดลงทะเบียนระหว่างวันที่ 4 – 8 ก.พ. โดยกล้าไม้ 1 ล้านต้นนี้ได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาคราชการและภาคเอกชน โดยรับได้คนละ 5 ต้น โดยนอกจากรับได้ที่งานแล้ว ผู้สนใจสามารถระบุเขตพื้นที่ที่สะดวก พร้อมคู่มือวิธีการดูแลต้นกล้าผ่านทางออนไลน์ได้แก่ สำนักงานเขต 50 เขต ร้าน CP Fresh Mart สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงบางจาก โรงเรียน และวัด 

“นายกรัฐมนตรีต้องการให้ประชาชนที่นำต้นไปปลูกนั้นช่วยกันดูแลรักษาต้นกล้าให้เจริญเติบโตเพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวทั่วประเทศซึ่งจะติดตามและส่งเสริมการขยายผลในโครงการระยะยาว โดยแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อกำกับติดตามและขับเคลื่อนโครงการที่จะขยายไปทั่วประเทศทั้งในปีนี้และปีต่อๆ ไป” นายเฉลิมชัยกล่าว . – สำนักกข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553