อุดรธานี 26 ม.ค.- กุ๊กหนุ่มชาวอุดรฯ เพิ่งกลับจากสหรัฐ 3 วัน ผูกคอเสียชีวิตในห้องเก็บของหน้าบ้าน ญาติเผยมีอาการทางจิตประสาท เมื่อนอนมักได้ยินเสียงคนมาบ่นในหู ทำให้นอนไม่หลับ ทำงานไม่ได้ จนต้องลางานกลับมาบ้าน คาดเครียดจนผูกคอเสียชีวิต
ตำรวจ สภ.ย่อยโนนสูง อ.เมืองอุดรธานี เข้าตรวจสอบเหตุชายผูกคอเสียชีวิตในห้องเก็บของหน้าบ้านหลังหนึ่งของบ้านหนองตะไก้ ต.หนองไผ่ ญาติเผยมีอาการทางจิตประสาท คาดว่าหลอนทำให้เครียดผูกคอเสียชีวิต
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ และมีชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันมายืนมุงดูด้วยความสนใจ พบศพนายภาณุกร อนันเอื้อ อายุ 25 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ใช้เชือกไนลอนสีแดงผูกคอตัวเอง โยงกับขื่อหลังคาห้องเก็บของ อาสากู้ภัยฯ จึงใช้มีดตัดเชือกนำศพลงมาตรวจสอบ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย และรอบบริเวณไม่มีร่องรอยการต่อสู้ เสียชีวิตด้วยการผูกคอตัวเอง ผ่านมาประมาณ 6-8 ชั่วโมง ตรวจสอบกระเป๋ากางเกงไม่มีทรัพย์สินและจดหมายลาตาย พบเพียงบุหรี่ 1 ซอง และไฟแช็ก 1 อัน
สอบสวนพ่อและแม่ผู้ตายเล่าว่า เสียใจอย่างมากที่มาสูญเสียลูกชาย พวกตนแยกทางกันตั้งแต่ผู้ตายอายุ 8 ขวบ ผู้ตายอาศัยอยู่กับพ่อจนอายุ 20 ปี จากนั้นไปทำงานเป็นกุ๊กร้านอาหารไทยที่สหรัฐ และกลับมาเยี่ยมบ้านเมื่อช่วงปีใหม่ โดยมาปรึกษาเรื่องการบวชทดแทนคุณพ่อแม่ และรักษาอาการทางจิตประสาท ที่เมื่อนอนมักได้ยินเสียงคนมาบ่นในหู ทำให้นอนไม่หลับ ทำงานไม่ได้ ก่อนเดินทางกลับไปทำงาน และลางานกลับมาบ้านเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา
พ่อและแม่ผู้ตายเล่าว่า การกลับมาบ้านเกิดครั้งนี้ ผู้ตายมีอาการหนักกว่าเดิม และขอพ่อมานอนพักอยู่กับแม่ บอกว่าคิดถึงแม่อยากนอนกอดแม่สักครั้ง ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา แม่ลงจากบ้านมานอนกอด และพยายามปลอบใจลูกชาย ที่ห้องโถงชั้นล่าง แต่ลูกชายนอนไม่หลับทั้งคืน บอกว่ามีคนมาบ่นและด่าใส่หู เช้าวันนี้ แม่และพ่อเลี้ยงออกไปทำงาน ส่วนน้องชายต่างบิดา อายุ 14 ปี ตื่นขึ้นมาช่วงสาย เพื่อจะขอบคุณพี่ชายที่ซื้อกีตาร์โปร่งให้เป็นของขวัญ แต่กลับไม่เห็นพี่ชาย ร้องเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงออกขี่รถจักรยานยนต์ตามหาพี่ชายทั้งวันแต่ก็ไม่พบ จึงเปิดประตูห้องเก็บของดูพบพี่ชายผูกคอเสียชีวิตแล้ว.-สำนักข่าวไทย