เม็กซิโกซิตี 25 ธ.ค.- กระทรวงต่างประเทศเม็กซิโกกล่าวหาเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและข่าวกรองของโบลิเวียอีกครั้งว่า คุกคามนักการทูตเม็กซิโกในกรุงลาปาซของโบลิเวีย ทั้งที่ประธานาธิบดีเม็กซิโกกล่าวเมื่อวันก่อนว่าความสัมพันธ์ของสองประเทศดีขึ้นแล้ว หลังจากเย็นชาเพราะเม็กซิโกให้อดีตประธานาธิบดีโบลิเวียลี้ภัย
กระทรวงต่างประเทศเม็กซิโกแถลงเมื่อวันอังคารว่า ตำรวจโบลิเวียลงบันทึกคนเข้าออกสถานที่ทางการทูตของเม็กซิโก ติดตามยวดยานของนักการทูตและพยายามขัดขวางไม่ให้เอกอัครราชทูตเม็กซิโกเดินทางอย่างอิสระ เป็นการกระทำที่เห็นได้ชัดเจนว่าไม่สอดคล้องกับแนวปฏิบัติทั่วไปเรื่องการตรวจตราและคุ้มครองสถานที่ทางการทูต อธิบายได้อย่างเดียวว่าเป็นเรื่องการเมืองภายใน ส่วนเมื่อวันจันทร์เม็กซิโกร้องเรียนว่า โบลิเวียส่งเจ้าหน้าที่ข่าวกรองและความมั่นคงมาตรวจตรามากเกินความจำเป็นถึง 150 นาย ด้านประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ของเม็กซิโกกล่าวระหว่างการแถลงข่าวตามปกติในวันอังคารว่า ทราบมาว่าสถานการณ์การตรวจตราสุดโต่งที่สถานทูตเม็กซิโกในโบลิเวียคลี่คลายลงแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องสะสางให้เรียบร้อย
สำนักข่าวเอบีไอ (ABI) ของทางการโบลิเวียรายงานอ้างเลขาธิการประธานาธิบดีว่า ทางการส่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงไปอารักขาสถานทูตเม็กซิโกเพราะเป็นที่พักของพันธมิตรนายอีโว โมราเลส อดีตประธานาธิบดีโบลิเวียที่ลาออกเมื่อเดือนก่อนหลังจากถูกประท้วงแล้วไปลี้ภัยที่เม็กซิโก ก่อนไปลี้ภัยต่อที่อาร์เจนตินา เลขาธิการยืนยันว่า การเพิ่มเจ้าหน้าที่อารักขาไม่กระทบต่อการเดินทางอย่างเสรีของนักการทูต ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศโบลิเวียยืนยันว่า เจ้าหน้าที่โบลิเวียเคารพเอกสิทธิทางการทูตและจะไม่เข้าไปในสถานทูตเม็กซิโก รัฐบาลโบลิเวียกล่าวหาเม็กซิโกกับด้วยว่า เตะถ่วงการรับรองนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของโบลิเวีย.- สำนักข่าวไทย