พะเยา 23 ธ.ค.-กรณี “น้องเอย” เด็กหญิงถูกครูกล้อนผมเพราะเป็นเหา ล่าสุด ครูเข้าขอโทษและทำความเข้าใจกับครอบครัวเด็ก จนเข้าใจกันและไม่ติดใจเอาความแล้ว เนื่องจากครูก็ดูแลเด็กเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ไม่อยากให้ถูกลงโทษ ด้านครูยืนยันปรารถนาดี หวังให้เด็กหายเป็นเหา แต่ยอมรับผิดขั้นตอนที่ไม่ได้ขออนุญาตผู้ปกครองก่อน
กรณีสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพเด็กหญิงพร้อมกับข้อความ “ครูโกนหัวนักเรียนเพราะเป็นเหา แบบนี้สมควรไหมคะ น้องคนนี้เป็นหลานแท้ๆ แต่น้องเป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย ที่หัวเกรียนๆ อะ คือครูในโรงเรียนเห็นน้องเป็นเหา เลยจับน้องโกนหัว ไม่ถามพ่อแม่ตายายน้องเลย แบบนี้ครูมีสิทธิ์หรอ ครูไม่ใช้ผู้กำเนิด ไม่ใช่พ่อไม่ใช่แม่ ไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้ปะ คนที่ทำแบบนี้ได้สมควรมาเป็นครูปะ เด็กหัวเกรียนไปเรียน แน่อยู่แล้วต้องโดนล้อ จิตใจเด็กใครรับผิดชอบ” ซึ่งภายหลังได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายอื่นๆ เข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์มากมายนั้น
ล่าสุด นางศรีดา กุนา ยายของ “น้องเอย” กำลังเตรียมตัวที่จะเดินทางไปส่งหลาน ที่โรงเรียนในเช้าวันนี้ หลังจากที่มีเหตุน้องเอยถูกกล้อนผมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และมีญาตินำรูปภาพโพสต์กับสื่อโซเชียลจนเป็นที่โด่งดังไปทั่ว ล่าสุด ในพื้นที่คณะครูและครูผู้กล้อนผมน้องเอยได้เข้าขอโทษและทำความเข้าใจกับครอบครัวของน้องเอย ซึ่งน้องเอยอาศัยอยู่กับตายาย จนเป็นที่เข้าใจกันและไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด
นางศรีดา กล่าวว่า ในตอนแรกที่ครูกล้อนผมน้องเอยนั้น ก็รู้สึกโมโหเหมือนกัน แต่พอตอนหลังเข้ามาขอโทษและอธิบายเหตุผลในเรื่องของการกำจัดเหาดังกล่าว ก็มีความรู้สึกดีขึ้น และไม่ติดใจเอาความกับครู เนื่องจากครูคนดังกล่าวนั้นก็เป็นครูที่ดูแลเด็กเป็นอย่างดีมาโดยตลอด และไม่อยากให้ครูถูกลงโทษเพราะการกระทำดังกล่าว ขณะนี้ครอบครัวก็มีการทำความเข้าใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้านนายสุกิจ ใจวังโลก ครูผู้กล้อนผมเด็กดังกล่าว ระบุว่าที่ตนเองกระทำลงไปนั้น เนื่องจากในวันนั้นมีการตรวจสุขภาพกัน และพบว่ามีนักเรียนจำนวนมากมีเหา และตรวจพบว่ามีนักเรียนสองรายคือ น้องเอยและเพื่อน ซึ่งมีเหาเป็นจำนวนมาก ตนเองจึงตัดผมเพื่อกำจัดเหา และเป็นความปรารถนาดีที่จะให้เด็กหายจากการเป็นเหา แต่ก็ผิดขั้นตอนที่ไม่ได้ขออนุญาตผู้ปกครองก่อน ซึ่งตอนนี้ก็ทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว และอธิบายเหตุผลในการทำดังกล่าวให้ผู้ปกครองได้รับทราบ ซึ่งผู้ปกครองก็ให้อภัยและมีความเข้าใจในการกระทำดังกล่าวแล้วตอนนี้
สำหรับน้าสาวที่นำภาพดังกล่าวไปโพสต์จนเป็นที่รับทราบทั่วกัน ระบุว่าในตอนแรกนั้นรู้สึกโมโห แต่เมื่อได้รับฟังเหตุผลในการกระทำดังกล่าวแล้วก็รู้สึกสบายใจ และเข้าใจครูคนดังกล่าว ซึ่งก็ไม่อยากให้ครูถูกลงโทษหรือถูกย้ายไปที่อื่น.-สำนักข่าวไทย