กัวลาลัมเปอร์ 21 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดของมาเลเซียเผยว่า มาเลเซีย อิหร่าน และกาตาร์กำลังพิจารณาเรื่องการค้าขายกันด้วยทองคำและระบบแลกเปลี่ยนสินค้า เพื่อป้องกันการถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจในอนาคต
นายกรัฐมนตรีมหาเธร์กล่าวปิดการประชุมสุดยอดอิสลามเป็นเวลา 4 ในวันนี้ ยกย่องอิหร่านและกาตาร์ที่สามารถต้านทานการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ กาตาร์ถูกประเทศอาหรับที่เป็นพันธมิตรสหรัฐอย่างซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรนและอียิปต์ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตและการค้ามานาน 2 ปี 6 เดือนแล้วด้วยข้อกล่าวหาว่าสนับสนุนการก่อการร้าย ขณะที่เศรษฐกิจอิหร่านกำลังเดือดร้อนหนักเพราะสหรัฐนำมาตรการคว่ำบาตรกลับมาใช้อีกครั้ง หลังถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 นายกรัฐมนตรีมหาเธร์กล่าวว่า โลกมุสลิมจำเป็นต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคต โลกได้เห็นแล้วว่าหลายประเทศใช้มาตรการลงโทษประเทศอื่นตามอำเภอใจ มาเลเซียและประเทศมุสลิมอื่น ๆ จึงต้องตระหนักอยู่เสมอว่าอาจถูกใช้เช่นเดียวกัน เขาได้เสนอให้โลกมุสลิมทบทวนแนวคิดเรื่องการค้าขายกันด้วยเหรียญทองคำอิสลามและระบบแลกเปลี่ยนสินค้า หวังว่าจะสามารถตกลงเรื่องกลไกในการนำมาใช้อย่างจริงจังได้ต่อไป
นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวถึงกระแสวิตกเรื่องชาวมุสลิมในประเทศที่ไม่ใช่มุสลิมถูกบังคับให้ทำตัวกลมกลืนกับคนส่วนใหญ่ของประเทศว่า มุสลิมสนับสนุนการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน แต่การบังคับให้กลมกลืนด้วยการละทิ้งศาสนาอิสลามเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับฟังเรื่องชาวอุยกูร์ถูกควบคุมตัวในจีน เขาคิดว่าควรต้องให้โอกาสรัฐและผู้ร้องเรียนได้พูด จึงจะถือว่าเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ส่วนเรื่องกฎหมายสัญชาติฉบับแก้ไขของอินเดียที่เอื้อให้ชนกลุ่มน้อยที่ไม่ใช่มุสลิมจากสามประเทศเพื่อนบ้านได้สัญชาติอินเดียเร็วขึ้นนั้น เขาเห็นว่าเป็นการกระทำที่น่าเสียใจ.-สำนักข่าวไทย