ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจำคุกตลอดชีวิต “ไซซะนะ” เจ้าพ่อยาเสพติดชาวลาว

กรุงเทพฯ 19 ธ.ค.- ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกตลอดชีวิต “ไซซะนะ แก้วพิมพา” เจ้าพ่อยาเสพติดชาวลาว


ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดี ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายไซซะนะ แก้วพิมพา อายุ 42 ปี นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ชาวลาว เป็นจำเลย ในความผิดอาญามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย กรณีจำเลยมียาบ้าไว้ในครอบครอง 1.2 ล้านเม็ด ในความผิดมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือ ยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 65, 66 และ 100/1 และ พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 4 – 5, 8, 14

คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า จำเลยกับพวกซึ่งอยู่ที่ สปป.ลาว ร่วมกันทำหน้าที่จัดหายาเสพติด รวมทั้งรถยนต์สำหรับซุกซ่อน และรถยนต์นำทางในการขนลำเลียงยาเสพติด โดยมีพวกของจำเลยที่อัยการได้ยื่นฟ้องเป็นคดีต่อศาลอาญาไว้แล้วรวม 6 คน ร่วมกระทำผิดในการทำหน้าที่ขับรถรับยาเสพติดจาก สปป.ลาว เข้ามาในประเทศไทยเพื่อส่งต่อ พวกจำเลยได้มีการขับรถนำทางและสำรวจเส้นทางเพื่อตรวจสอบว่ามีด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ ก่อนที่จะประสานติดต่อกันเพื่อส่งมอบยาให้กับเครือข่ายยาเสพติดทางภาคใต้ของไทยและประเทศมาเลเซียต่อไป


โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2559 จำเลยกับพวกที่ถูกยื่นฟ้องแล้ว และอีกหลายคนที่หลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้ร่วมกันนำยาบ้าจำนวน 1.2 ล้านเม็ด จากสปป.ลาวซุกซ่อนในช่องลับใต้หลังคารถยนต์ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.หนองคาย เข้ามาในไทย โดยตำรวจสามารถจับกุมเครือข่ายจำเลย พร้อมยึดยาของกลางได้ กระทั่งขยายผลการจับกุมพวกจำเลยอีกส่วนที่อัยการได้ยื่นฟ้องเป็นคดีไว้แล้ว ก่อนจะจับกุมจำเลยได้เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2560 เหตุเกิดที่ สปป.ลาว, ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.หนองคาย, ด่านตรวจยาเสพติดสีคิ้ว จ.นครราชสีมา, ด่านตรวจยาเสพติดบ้านพละ จ.ชุมพร และลานจอดรถโรงแรมคริสตัน จ.สงขลา ชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ

โดยคดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิต แต่จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยตลอดชีวิต

ขณะที่วันนี้ ศาลเบิกตัวจำเลย จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์  ซึ่งศาลอุทธรณ์ประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานที่จำเลยยื่นอุทธรณ์ไม่มีน้ำหนักที่จะหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ แม้จะเป็นชาวต่างชาติและการกระทำเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร แต่ประสงค์ให้เกิดในราชอาณาจักร จึงต้องดำเนินคดีและนับโทษตามกฎหมายในประเทศไทย ส่วนกรณีที่จำเลยอุทธรณ์ว่า เจ้าหน้าที่ไทยและลาวทำงานร่วมกันอาจไม่เข้าใจในภาษา ทำให้เกิดความคาดเคลื่อนและความเข้าใจผิดนั้น ในชั้นพนักงานสอบสวนเจ้าหน้าที่ทำด้วยความระมัดระวังอยู่แล้ว อีกทั้งมีล่ามแปลภาษาและทนายความเข้าร่วม ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย หากจำเลยไม่เข้าใจในขณะนั้นก็สามารถสอบถามล่ามได้ การอุทธรณ์ของจำเลยจึงฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกตลอดชีวิต .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี