กรุงเทพฯ 9 ธ.ค.- กรมป่าไม้เร่งแปลภาพถ่ายดาวเทียมปี 2495-2562 เพื่อนำข้อมูลหารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า
ที่ดินที่มอบให้ส.ป.ก.ไปแล้วและ“ปารีณา ไกรคุปต์” เข้าไปทำฟาร์มไก่ยังอยู่ในอำนาจทางกฎหมายที่กรมป่าไม้ทำได้หรือไม่
โยนกลับส.ป.ก.ต้องเป็นเจ้าภาพหลักจัดการทางกฎหมายกรณีมีการบุกรุกที่ดินเขตปฏิรูป
นางนันทนา
บุณยานันต์ โฆษกกรมป่าไม้ พร้อมด้วยฝ่ายกฎหมาย แถลงภายหลังการประชุมพิจารณาที่ดิน 29 แปลง เนื้อที่กว่า 600 ไร่ที่น.ส.
ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐครอบครองและเพิ่งส่งมอบคืนให้สำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร
(ส.ป.ก.) ว่า การประชุมวันนี้(9 ธ.ค.) กรมป่าไม้ ยังไม่ได้ข้อสรุปและได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมป่าไม้
ให้เร่งดำเนินการการแปลภาพถ่ายของกรมป่าไม้ทุกชั้นปีเท่าที่มี ตั้งแต่ปี 2495-2562
ซึ่งปกติถ่ายทุกๆ 5 ปีเพื่อเป็นข้อมูลวิเคราะห์การบุกรุกที่จะนำไปหารือกับส.ป.ก.ถึงเหตุผลที่ส.ป.ก.ระบุว่า
ที่ดินที่ถูกบุกรุกอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้มีข้อมูลอย่างไร พร้อมกับทำหนังสือขอหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป
ว่า ที่ดินที่มอบให้ส.ป.ก.ไปแล้ว ทางกรมป่าไม้ ยังมีอำนาจเข้าไปใช้อำนาจตามฎหมายหรือไม่
“ขอทำความเข้าใจจากประชาชนว่า กรมป่าไม้จะต้องทำงานอย่างรอบคอบ
และจะเร่งดำเนินการโดยด่วน หากพบมีการกระทำผิดจริงๆ ก็พร้อมที่จะดำเนินการ”
นางนันทนา กล่าว
นายจุมพฏ ชอบธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย กรมป่าไม้ กล่าวว่า เมื่อมีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฎิรูปที่ดินปี
พ.ศ.2554 และกรมป่าไม้ส่งมอบพื้นที่ให้กับส.ป.ก.ไปแล้ว
อำนาจหน้าที่จึงเป็นของส.ป.ก. ดังนั้นหากมีการบุกรุกหรือครอบครองเกิดขึ้น
หน่วยงานที่มีอำนาจดูแลที่ดินดังกล่าวคือ ส.ป.ก. ถึงตอนนี้ ยังตอบไม่ได้
กรณีนางสาวปารีณา ได้เข้าไปครอบครองแล้วก่อนที่จะมีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฎิรูปที่ดิน
จะเป็นความผิดหรือไม่ ซึ่งทาง ส.ป.ก.ระบุว่า ไม่น่าสามารถเอาผิดดำเนินคดีอาญาได้
ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย กรมป่าไม้ กล่าวอีกว่า ส.ป.ก. เป็นเจ้าภาพหลักเมื่อพบความเสียหาย
มีหน้าที่ต้องไปกล่าวโทษ หากต้องการความช่วยเหลือ
ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลจับกุมเพราะไม่มีอำนาจจับกุม ก็แจ้งประสานงานมายังกรมป่าไม้ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ดูแลตามพระราชบัญญัติป่าไม้ได้อยู่แล้ว
หรือแจ้งพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ
หรือร้องทุกข์โดยตรงต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่ดังกล่าวได้ แต่จะต้องให้ความเป็นธรรมในพื้นที่ด้วย
เพราะเมื่อมีการกำหนดเขต ส.ป.ก.แล้ว ประชาชนทุกคนที่อยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติในแปลงบุกรุกที่ทำกินอยู่แล้วไปให้ส.ป.ก.ทุกคนล้วนบุกรุกอยู่แล้ว
เมื่อส.ป.ก.ตรวจสอบสิทธิจะต้องมีสถานะเป็นเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง
มีฐานะยากจน ถ้าบุคคลที่ไม่มีสิทธิจะต้องส่งมอบพื้นที่คืนมา เพื่อดำเนินการปฎิรูปให้เกษตรกรที่มีสิทธิต่อไป
ส่วนที่ดินที่นางสาวปารีณาบุกรุก ขณะนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า
จำนวนกี่ไร่ เนื่องจากไม่การปักรั้วกำหนดเขตไว้ชัดเจน จะต้องดูสภาพความเป็นจริงขอบเขตการบุกรุกว่า เป็นอย่างไรต่อไป
นายพัฒนะ ศิริมัย ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ ราชบุรี กล่าวว่า การทำผิดที่เกิดขึ้นครั้งนี้
เกิดขึ้นในเขต ส.ป.ก. ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายป่าไม้ด้วย
หน่วยงานที่ควรจะต้องร้องทุกข์คือ ส.ป.ก.
ซึ่งส.ป.ก.จะขอให้กรมป่าไม้ไปร่วมกล่าวโทษด้วย ก็มีความพร้อม เพราะทราบว่าพื้นที่ดังกล่าว
มีสถานะเป็นพื้นที่ป่า หรือป่าสงวนแห่งชาติตามกฎหมายอยู่แล้ว
แต่กรมป่าไม้จะขอหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และจะหารือกับทาง ส.ป.ก.ก่อน
เพื่อความชัดเจนในการบังคับใช้กฎหมายต่อไป และเมื่อมีความชัดเจน กรมป่าไม้จะลงพื้นที่ตรวจสอบต่อไป
-สำนักข่าวไทย