กรุงเทพฯ 27 พ.ย. – พาณิชย์เผยปีหน้าผลผลิตข้าวเปลือกทั้งนาปีและนาปรังลดลง เหลือ 27 – 28 ล้านตัน จากภัยแล้ง-น้ำในเขื่อนน้อย อาจส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศขยับสูงขึ้น ส่วนการจ่ายชดเชยส่วนต่างประกันรายได้ข้าวงวดที่4 วงเงิน1,600 ล้านบาท ให้กับข้าวเปลือกเจ้าและข้าวหอมปทุมฯซึ่งราคายังต่ำกว่าเป้า ขณะที่ข้าวหอมและข้าวเหนียวไม่จ่ายชดเชยเพราะราคายังสูง คาด 4 งวด ใช้เงินไป15,000 ล้านบาท
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิง โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ครั้งที่ 5/2562 ร่วมกับสมาคมโรงสี สมาคมชาวนา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ว่า ปีนี้คาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวนาปีจะลดลงจากปัญหาภัยแล้งและน้ำในเขื่อนน้อย อาจกระทบต่อผลผลิตข้าวเปลือกเจ้านาปรังปี 2563 ที่ปกติมีผลผลิต 8 ล้านตัน อาจเหลือ 3.5 ล้านตัน หรือหายไป 50% ซึ่งจะทำให้ข้าวเปลือกทั้งปี 2563 มีข้าวเปลือกออกสู่ตลาดเหลือ 27 – 28 ล้านตัน จากปกติ 32-34 ล้านตัน ก็ดังนั้นจะมีผลต่อราคาข้าวเปลือกและข้าวสารจากนี้มีราคาสูงขึ้น ซึ่งหากแปลงเป็นข้าวสารเหลือประมาณ 16-17 ล้านตัน หากส่งออกได้แค่ 8 ล้านตัน บริโภคในประเทศที่ปกติอยู่ที่ 9-10 ล้านตัน อาจมีผลต่อราคาข้าวในประเทศจากนี้ขยับสูงต่อเนื่อง เชื่อว่าราคาข้าวจากนี้ไม่น่าจะต่ำลงแล้ว โดยขณะนี้ผลผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเหนียว และข้าวเปลือกเจ้าในฤดูการผลิตนาปี2562/63 ได้มีการเก็บเกี่ยวแล้วส่วนใหญ่เกือบ 90% ที่เหลือคาดว่าจะเก็บเกี่ยวหมดภายใน 7-10 วันจากนี้
อย่างไรก็ตาม จากการประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดราคาอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี2562/63 รอบที่ 1 งวดที่4 ที่เกษตรกรเกี่ยวผลผลิตระหว่างวันที่16-30 พ.ย.62 ซึ่งราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง ได้จากการคำนวณเกณฑ์กลางอ้างอิงจากราคาข้าวชนิดต่างๆ ย้อนหลัง15 วันทำการ (6-26 พ.ย.62) พบว่า ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาประกันรายได้ 15,000 บาทต่อตัน โดยราคาเกณฑ์กลางข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ที่15,286 บาทต่อตัน และข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาประกันรายได้ 14,000 บาทต่อตัน โดยราคาเกณฑ์กลางข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ที่ 14,153 บาทต่อตัน และข้าวเหนียว ราคาประกันรายได้ 12,000 บาทต่อตัน โดยราคาเกณฑ์กลางข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ที่ 16,186 บาทต่อตัน ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาเป้าหมายดังนั้นข้าว3ชนิดนี้จะไม่มีการจ่ายราคาส่วนต่าง
ส่วนข้าวที่จะต้องจ่ายชดเชยส่วนต่าง คือ ข้าวเปลือกเจ้า โดยราคาประกันรายได้อยู่ที่11,000 บาทต่อตัน แต่โดยราคาเกณฑ์กลางข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ที่ 7,446 บาทต่อตัน ลดลง 1.98% ซึ่งเกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่าง 2,553 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาประกันรายได้ 11,000 บาท โดยราคาเกณฑ์กลางข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ที่ 9,404บาทต่อตัน ลดลง 2.29% เกษตรกรจะได้รับชดเชย 1,595 บาทต่อตัน
“ผลผลิตข้าวที่ลดลง อาจมีผลต่อราคาข้าวในประเทศจากนี้ขยับสูงต่อเนื่อง เชื่อว่าราคาข้าวจากนี้ไม่น่าจะต่ำลงแล้ว ส่วนคนในประเทศจะกินข้าวแพงขึ้นไหม ไม่อยากให้วิตก เพราะรัฐบาลดูแลให้เพียงพออยู่แล้ว และเป็นน่ายินดีต่อการเพิ่มรายได้ให้ชาวนา” นายวิชัย กล่าว
สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารข้าว(นบข.)ในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เป็นการพิจารณาวงเงินชดเชยกรณีเกิดภาวะขาดทุนจากโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกให้กับ ธ.ก.ส. ประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาไม่เคยมีการใช้วงเงินเพราะไม่เคยมีการขายข้าวขาดทุน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม นบข.ยังต้องติดตามว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ผ่านโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว ปีการผลิต 2562/63 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร โดยการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวข้าวและปรับปรุงคุณภาพข้าว ให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2562 กับกรมส่งเสริมการเกษตรจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวเฉพาะเกษตรกรรายย่อยอัตราไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท วงเงินรวม 26,793 ล้านบาท หรือไม่ เพราะที่ประชุมครม.ครั้งที่ผ่านมา ให้เข้าการพิจารณาของ นบข. ก่อน . – สำนักข่าวไทย