ชาวนาปลื้มราคาข้าวสูงสุดรอบ 17 ปี ขอรัฐเร่งพัฒนาพันธุ์ข้าว

กรุงเทพฯ 15 มี.ค.- นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยราคาข้าวเปลือกทุกชนิดปรับเพิ่มสูงกว่า 1 หมื่นบาทต่อตัน สูงสุดในรอบ 17 ปี คาดราคายังขยับได้อีก ส่วนสถานการณ์น้ำในฤดูแล้งไม่กระทบ เพราะ ชาวนาไม่ปลูกนาปรังรอบ 2 พร้อมขอกรมการข้าว เร่งพัฒนาสายพันธุ์ให้ผลผลิตต่อไร่สูง ลดต้นทุนการผลิต

นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยกล่าว่า ราคาข้าวเปลือกทุกชนิดในระยะนี้ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 หมื่นบาทต่อตันซึ่งเป็นที่น่าพอใจ โดยสูงสุดในรอบ 17 ปีอยู่ในช่วงการเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกนาปรังรอบแรกปี 2567 โดยเชื่อว่า ราคายังขยับขึ้นได้อีกเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความแห้งแล้งจากสภาวะเอลนีโญที่เกิดขึ้นในปี 2566 นอกจากนี้ราคาข้าวของเวียดนามสูงกว่าราคาข้าวของไทย อีกทั้งยังเป็นผลจากมาตรการรักษาเสถียรภาพข้าวเปลือกของไทยที่มีโครงการให้สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีและสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกรซึ่งเข้าไปรับซื้อข้าวในราคานำตลาด ประกอบกับอินเดียยังไม่ยกเลิกมาตรการห้ามส่งออกข้าวขาว


ขณะนี้นาปรังเริ่มทยอยเก็บเกี่ยว แต่เนื่องจากกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอความร่วมมือไม่ให้ทำนาปรังรอบ 2 เชื่อว่า ชาวนาจะไม่เสี่ยงปลูกเพราะหากน้ำไม่เพียงพอ ผลผลิตจะเสียหาย ส่วนฤดูกาลเพาะปลูกใหม่ จะต้องติดตามว่า ฝนจะตกตั้งแต่ต้นฤดูหรือไม่ หากฝนมาช้า จะต้องเลื่อนการเพาะปลูกนาปีออกไป

นายปราโมทย์กล่าวว่า ได้เสนอต่อกรมการข้าวให้เร่งพัฒนาสายพันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงกว่า 1,000 กิโลกรัมขึ้นมาและกระจายพันธุ์ข้าวคุณภาพสู่ชาวนาอย่างทั่วถึงเนื่องจากพันธุ์ข้าวที่ชาวนาปลูกในปัจจุบัน ให้ผลผลิตเพียง 800-900 กิโลกรัม เมื่อต้นทุนการผลิตสูง แม้ราคาข้าวเปลือกจะปรับเพิ่มขึ้น แต่หักต้นทุนแล้ว เหลือรายได้ไม่มาก


พันธุ์ข้าวที่ชาวนาต้องการ นอกจากให้ผลผลิตสูงแล้ว ยังต้นทนทานต่อโรค ใช้ระยะเวลาปลูกน้อยกว่า 100 วัน สิ่งที่ชาวนาเรียกร้องจากภาครัฐอีกประการคือ ให้มีแหล่งน้ำเพียงพอสำหรับเพาะปลูก ตลอดจนขอให้สนับสนุนมาตรการลดต้นทุนการผลิตและการจัดการคุณภาพข้าวหลังเก็บเกี่ยว หากทำได้ทั้งหมดนี้ รัฐบาลไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินช่วยเหลือตามโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหรือโครงการ “ไร่ละพัน” ชาวนาก็อยู่ได้

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) รายงานสถานการณ์การผลิตข้าวนาปี 2566/67 ว่า มีเนื้อที่เพาะปลูก 61.928 ล้านไร่ ผลผลิต 25.569 ล้านตันข้าวเปลือก และผลผลิตต่อไร่ 413 กิโลกรัม ลดลงจากปี 2565/66 ร้อยละ 1.45 ร้อยละ 4.28 และร้อยละ 2.82 ตามลำดับ เนื้อที่เพาะปลูกลดลง เนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญทำให้เกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ขาดแคลนน้ำ ส่งผลให้เกษตรกรในบางพื้นที่ปล่อยที่นาให้ว่าง และบางพื้นที่ปลูกข้าวนาปีได้เพียงรอบเดียว สำหรับผลผลิตต่อไร่ลดลง เนื่องจากปริมาณน้ำฝนน้อย ส่งผลต่อการงอกของต้นกล้า และการสร้างรวงของต้นข้าวที่เติบโตได้ไม่เต็มที่ ประกอบกับบางพื้นที่พบโรคและแมลงศัตรูพืชระบาด เช่น โรคไหม้คอรวง เพลี้ยไฟ เป็นต้น ส่งผลให้ในภาพรวมผลผลิตทั้งประเทศลดลง

ทั้งนี้ผลผลิตออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566 – พฤษภาคม 2567 โดยคาดการณ์ว่า ผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดในเดือนมีนาคม 2567 ปริมาณ 0.045 ล้านตันข้าวเปลือก คิดเป็นร้อยละ 0.17 ของผลผลิตข้าวนาปีทั้งหมด และคาดว่า เหลือผลผลิตในเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2567 อีก 0.070 ล้านตันข้าวเปลือก คิดเป็นร้อยละ 0.27 ของผลผลิตข้าวนาปีทั้งหมด


สำหรับข้าวนาปรัง ปี 2567 คาดการณ์ว่า มีเนื้อที่เพาะปลูก 9.877 ล้านไร่ ผลผลิต 6.351 ล้านตันข้าวเปลือก และผลผลิตต่อไร่ 643 กิโลกรัม ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 6.88 ร้อยละ 8.19 และร้อยละ 1.38 ตามลำดับ เนื้อที่เพาะปลูกลดลง เนื่องจากปรากฎการณ์เอลนีโญทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่และปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติน้อยกว่าปี 2566 ส่งผลให้น้ำต้นทุนไม่เพียงพอ เกษตรกรบางพื้นที่จึงปล่อยที่นาให้ว่าง สำหรับผลผลิตต่อไร่คาดว่าลดลง เนื่องจากปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของต้นข้าว คาดการณ์ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ – ตุลาคม 2567 โดยเดือนมีนาคม 2567 ผลผลิตออกสู่ตลาด ปริมาณ 2.037 ล้านตันข้าวเปลือก คิดเป็นร้อยละ 32.08 ของผลผลิตข้าวนาปรังทั้งหมด ทั้งนี้ ผลผลิต จะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน 2567 ปริมาณรวม 4.260 ล้านตันข้าวเปลือก หรือคิดเป็นร้อยละ 67.08 ของผลผลิตข้าวนาปรังทั้งหมด.- 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย