สุพรรณบุรี 26 พ.ย.- หากมีการแบน 3 สารเคมี ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้ หนึ่งในข้อกังวล คือ สตอกสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ที่รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 20,000 ตัน รัฐบาลจะจัดการอย่างไร เกษตรกรยังสงสัยว่าหากนำไปคืนบริษัทจะได้เงินคืนจริงหรือไม่ ติดตามในรายงานพิเศษ “ผลกระทบแบน 3 สารเคมีต่ออุตสาหกรรมเกษตร” วันนี้เสนอเป็น ตอนที่ 3
ร้านเล็กๆ ในชุมชน ที่ขายสารเคมีกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชเล็ก วันนี้กลับเงียบเหงา จากที่เคยมีเกษตรกรทั้งชาวไร่อ้อย ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด เข้ามาซื้อหา โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อย เพราะประหยัดทั้งเวลาและเงิน ที่ไม่ต้องไปซื้อถึงในเมือง
เจ้าของร้านเป็นเกษตรกรเช่นกันบอกว่า ปกติสั่งมาครั้งละไม่มาก ทั้งใช้และขายด้วย ไม่เอากำไรมาก แต่หากตั้งแต่ 1 ธันวาคมนี้ จะยกเลิกใช้ 3 สารเคมี โดยเฉพาะพาราควอต จากที่เคยปิดร้านบางวัน อาจต้องปิดร้านถาวร เพราะชาวไร่ซื้อพาราควอตใช้มากกว่าสารเคมีตัวอื่น
ขณะที่ร้านขายสารเคมีกำจัดศัตรูพืชนาดใหญ่ในตัวเมือง แม้จะมีสารนับร้อยชนิด แต่พาราควอตและไกลโฟเซตขายดีเป็นอันดับต้นๆ เมื่อมีประกาศว่าจะยกเลิกใช้ ก็งดสั่งเพิ่มเช่นกัน ส่วนสตอกที่เหลืออยู่ก็จ่ายเงินไปแล้ว จากเดิมที่ตกลงจ่ายเงินหลังขายสินค้าหมด ทำให้ต้องแบกรับความเสี่ยง แต่สิ่งที่กังวลยิ่งกว่าคือ หากตั้งแต่ 1 ธันวาคมนี้ ยังขายไม่หมด สตอกสารเคมีทั้ง 3 ชนิด จะกลายเป็นของผิดกฎหมาย ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนจากภาครัฐว่ามีแนวทางจัดการสารเคมีที่เหลืออย่างไร และจะให้ใช้สาารใดทดแทน
ก่อนหน้านี้ช่วงกลางปีกรมวิชาการเกษตรออกประกาศให้ร้านค้าที่ขายสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ต้องขึ้นทะเบียน ส่วนเกษตรกรและผู้รับจ้างพ่น ต้องผ่านการอบรมเพื่อให้ใช้ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยภายใน 20 ตุลาคม แต่หลังจากนั้นเพียง 2 วัน 22 ตุลาคม กรรมการวัตถุอันตรายกลับมีมติแบน 3 สารเคมี และให้กรมวิชาการเกษตรไปดำเนินการ รวมไปถึงสตอก 3 สารเคมีที่ยังเหลืออยู่
สำหรับร้านค้ารายย่อยและเกษตรกร เตรียมส่งสารวัตรเกษตร 300 คน ลงพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเก็บสารเคมีจากเกษตรกร และจะนำไปส่งคืนบริษัทให้ หรือชาวบ้านจะนำไปคืนเองแล้วรับเงินได้จากบริษัท ซึ่งตั้งแต่ 1 ธันวาคม ต้องทำทันที แจ้งครอบครองสาร 15 วัน และส่งมอบคืนใน 15 วัน
ส่วนผู้นำเข้าอนุญาตให้ส่งกลับประเทศต้นทาง แต่มีข้อท้วงติงจากผู้ประกอบการว่า หากเป็นสารที่ผสมแล้วจะส่งออกยาก เพราะแต่ละประเทศใช้สัดส่วนไม่เหมือนกัน จึงขอเวลา ซึ่งอาจเสนอให้ยืดเวลาออกไปอีก 6 เดือน
ปัญหาการจัดการสตอก 3 สารเคมี ที่ยังระบุตัวเลขแน่นอนไม่ได้ แต่เบื้องต้นคาดว่ามากกว่า 20,000 ตัน คาดการณ์ว่าอาจมีการนำเข้าหารือในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายพรุ่งนี้
ต้องจับตาการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมจะนั่งหัวโต๊ะในฐานะประธาน ที่ระบุว่าการพิจารณาจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่กรมวิชาการเกษตรเสนอเข้ามา ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งแรกของกรรมการชุดนี้.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง