หนองคาย 17 พ.ย.- “ทรงศักดิ์” รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่หนองคายเยี่ยมศูนย์โอท็อปเร่งหาแนวทางกระตุ้นยอดขายจัดกระเช้าสินค้าชุมชนเป็นของขวัญปีใหม่ พร้อมดันศูนย์โอท็อปเป็นศูนย์กลางที่พักนักเดินทาง
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในโอกาสตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการศูนย์โอท็อป ที่ศูนย์แสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอท็อปจังหวัดหนองคาย วันนี้ (17 พ.ย.) ว่า กรมการพัฒนาชุมชนได้ผลักดันให้มีการพัฒนาสินค้าชุมชนในทุกรูปแบบ และจัดงานแสดง จำหน่ายสินค้าโอท็อปทั่วประเทศ เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้กับผู้ผลิตสินค้าชุมชนได้นำมาปรับปรุงจนกลายเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ หลายผลิตภัณฑ์มีตลาดรองรับ ซึ่งปีนี้กรมการพัฒนาชุมชนตั้งเป้ายอดจำหน่ายสินค้าชุมชน 300,000 ล้านบาท โดยจะผลักดันสินค้าในทุกรูปแบบ และในเร็ว ๆ นี้จะเสนอรัฐบาลให้นำสินค้าชุมชน สินค้าโครงการหลวง มาจัดกระเช้าเป็นของขวัญ ทั้งหมดนี้แต่ละจังหวัดจะต้องช่วยกันเพื่อก่อให้เกิดรายได้ที่ยั่งยืนแก่ชุมชน และช่วยกระตุ้นยอดจำหน่าย
“ทุกฝ่ายต้องบูรณาการร่วมกันให้มีนักท่องเที่ยวมาแวะพัก แวะชมสินค้าที่จัดแสดง อาจจะร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอความร่วมมือบริษัททัวร์ให้พานักท่องเที่ยวมาแวะก่อนออกเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ จะนำมาซึ่งการจำหน่ายสินค้าชุมชนเหล่านี้”
จากนั้นนายทรงศักดิ์ ได้ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาตามผังเมืองรวมเมืองหนองคาย ซึ่งเป็นโครงการในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาของจังหวัด มุ่งยกระดับมาตรฐานการผลิต การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการบริการเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน อีกทั้งการขยายตัวภาคการท่องเที่ยวริมน้ำโขงด้วย โดยโครงการพัฒนาตามผังเมืองรวมเมืองหนองคาย ที่พระธาตุหล้าหนอง ถนนริมโขง จ.หนองคาย ประกอบด้วย ลานกิจกรรมริมแม่น้ำโขง ความยาว 600 เมตร ดำเนินโครงการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560-2561 มีการปรับภูมิทัศน์โครงสร้างพื้นฐานและริมแม่น้ำโขงตลอดแนวเขื่อนป้องกันตลิ่งในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นลานกิจกรรมทางสังคมและวัฒนธรรม
นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า โครงการพัฒนาตามผังเมืองรวมนี้เป็นโครงการที่ต้องทำเพราะจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาพื้นที่ชายแดน ซึ่งไม่เฉพาะการทำเขื่อนป้องกันตลิ่งเพียงอย่างเดียวแต่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปในตัว จะได้เห็นวิถีชีวิตชุมชนริมแม่น้ำโขงที่น่าชมน่าติดตาม การใช้งบประมาณสุดท้ายแล้วต้องยึดประโยชน์และความสุขของประชาชนเป็นสำคัญ.-สำนักข่าวไทย