นนทบุรี 28 เม.ย.-กรมทรัพย์สินทางปัญญา จัดกิจกรรมสร้างความเข้มแข็งผู้ประกอบการจังหวัดนครนายกและฉะเชิงเทรา ภายใต้โครงการพัฒนาต่อยอดสินค้าชุมชนในแหล่งท่องเที่ยวด้วยทรัพย์สินทางปัญญา ปีที่ 3 ตั้งเป้าผลักดันสินค้าท้องถิ่นในแหล่งท่องเที่ยวเข้าสู่ระบบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้เพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ พร้อมสานต่อนโยบายซอฟต์พาวเวอร์เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สินค้าและบริการในชุมชนท้องถิ่นของไทยต่างมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและมีศักยภาพในการแข่งขันทางการค้า ด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น เมื่อได้รับการเสริมแกร่งในมิติด้านทรัพย์สินทางปัญญาจะยิ่งเพิ่มแต้มต่อให้ผู้ประกอบการมีความเข้มแข็งและดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงดำเนินการสร้างความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญาให้ผู้ประกอบการพื้นที่จังหวัดนครนายกและฉะเชิงเทรา ในการสร้างมูลค่าเพิ่มและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ทั้งด้านการคุ้มครองและนำทรัพย์สินทางปัญญาไปพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้ประกอบการสินค้าชุมชนของจังหวัดนครนายกและฉะเชิงเทราได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการนี้ อาทิ ไข่เค็มมะดัน กุ้งจ่อม น้ำพริกปลาดูมะดัน สบู่ไข่ขาวและเห็ดเยื่อไผ่ กล้วยอบซอสมะยงชิด มะม่วงกวนสอดไส้ บาล์มบำรุงผิวทำจากชันตะเคียน ตุ๊กตาดิน ผ้าพิมพ์ลายใบไม้สีจากธรรมชาติ เป็นต้น โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ดำเนินการติดอาวุธทางการค้าแบบครบวงจร ทั้งการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา การออกแบบตราสินค้า การสร้างแบรนด์ การปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ การส่งเสริมการตลาด
โดยใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงในสื่อสังคมออนไลน์ (Influencer) ช่วยแนะนำสินค้า เพื่อยกระดับสินค้าชุมชนให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ กระทรวงฯ เตรียมขยายช่องทางการตลาดโดยนำผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวมาร่วมเจรจาธุรกิจและจำหน่ายสินค้า ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า เวสเกต ระหว่างวันที่ 20 – 25 มิถุนายน 2566 รวมทั้งตั้งเป้ายกระดับสินค้าชุมชนด้วยทรัพย์สินทางปัญญาให้ครอบคลุมพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศต่อไป
นายบรรยง วงศ์นพรัตน์ ผู้ประกอบการพริกไทยจันท์ วิสาหกิจชุมชนพริกไทยแปลงใหญ่ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเมื่อปี 2565 เปิดเผยว่า “วิสาหกิจชุมชนพริกไทยแปลงใหญ่รู้สึกประทับใจที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เข้ามาช่วยส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าในชุมชนให้ได้รับการพัฒนา ทั้งการจัดอบรมให้ความรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญาและการสร้างแบรนด์ เทคนิคการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ การพัฒนาเครื่องหมายการค้า และออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ รวมทั้งผลักดันให้สินค้าชุมชนเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา โดยตอนนี้ได้รับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเรียบร้อยแล้ว ทำให้มีความมั่นใจในการทำธุรกิจและมียอดขายเพิ่มขึ้น จากเดิมที่เคยประสบปัญหาสินค้าเหลือค้างสต๊อก แต่ปัจจุบันขายดีจนสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า.-สำนักข่าวไทย