กทม. 14 พ.ย. – เมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 เกิดคดีใหญ่พบศพสาวไฮโซถูกไม้เบสบอลตีกะโหลกแตกในห้องพักหรู โรงแรมย่านลาดพร้าว จากฝีมือแฟนหนุ่ม ก่อนหลบหนีไปกบดานประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดวันนี้ศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้ว
ย้อนไปเมื่อ 30 กรกฎาคม 2561 ตำรวจ สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุพบศพ น.ส.ธิติมา หรือไฮโซเชอรี่ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ วัย 39 ปี เสียชีวิตในห้องพักโรงแรมย่านประดิษฐ์มนูธรรม สภาพศพมีบาดแผลถูกตีด้วยไม้เบสบอลที่ขมับด้านขวาจนกะโหลกศีรษะยุบ
คดีนี้ตำรวจใช้เวลาสืบสวนไม่นาน พบหลักฐานสำคัญเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพนายอัศยา ชัยภา หรือโก้ แฟนหนุ่มของผู้ตาย เดินออกจากห้องพัก ตำรวจจึงรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับนายอัศยา มาดำเนินคดี หลังจากศาลอนุมัติหมายจับ ตำรวจชุดสืบสวนพบเบาะแสเพิ่มเติมเป็นภาพวงจรปิดขณะผู้ต้องหาเดินอยู่ในบ่อนประเทศกัมพูชา ก่อนหลบหนีไปกบดานต่อที่เมืองกำปงสะปือ กระทั่ง 31 สิงหาคม 2561 จึงประสานทางการกัมพูชาให้ส่งตัวนายอัศยา กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย
การสอบสวนขณะนั้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง โดยอ้างว่ามีปากเสียงกันรุนแรง หลังถูกผู้ตายด่าทอถึงบุพการี และยังพยายามใช้ไม้เบสบอลที่ซื้อไว้ทำร้ายตนก่อน จึงแย่งไม้เบสบอลตีผู้ตายไป 3 ครั้ง จนแน่นิ่ง จากนั้นลักทรัพย์ บัตรเดบิตของผู้ตายไปถอนเงินกว่า 1 ล้านบาท ก่อนขับรถเบนซ์ของผู้ตายหลบหนี และให้น้องชายพาข้ามจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ไปฝั่งกัมพูชา
วันนี้ศาลอ่านคำพิพากษา โดยพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยนำสืบ เห็นว่าจำเลยใช้ไม้เบสบอลซึ่งเป็นท่อนเหล็กขนาดใหญ่ตีศีรษะซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญของผู้ตายจนกะโหลกแตก ย่อมเล็งเห็นผล มีเจตนาฆ่า ข้อต่อสู้ของจำเลยที่อ้างว่าเป็นการบันดาลโทสะเพราะถูกด่าทอบิดามารดา ฟังไม่ขึ้น พิพากษาจำคุกจำเลยตลอดชีวิต ฐานฆ่าผู้อื่น ส่วนความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พิพากษาจำคุก 3 ปี ความผิดฐานใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นจำคุก 3 ปี
แต่จำเลยรับสารภาพ เพราะจำนนต่อหลักฐาน และให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น คงจำคุก 33 ปี 4 เดือน ฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน คงจำคุก 2 ปี และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น คงจำคุก 2 ปี รวมจำคุก 37 ปี 4 เดือน พร้อมริบของกลาง
หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น จำเลยสำนึกผิด ก้มลงกราบขอขมานายอำนวย วิชัยโชติ บิดาของผู้ตาย ที่มาฟังคำพิพากษา แต่นายอำนวยมีท่าทีนิ่งเฉย ไม่ให้อภัย เพราะการสูญเสียลูกสาวเพียงคนเดียวยากที่จะทำใจ และอยากให้จำเลยต้องโทษหนักขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายอำนวยยังเตรียมยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลพิพากษาเพิ่มโทษจำเลยให้หนักขึ้น. -สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
► จำคุก 37 ปี 4 เดือน “โก้” มือฆ่า “ไฮโซเชอรี่”
►ตั้งรางวัลนำจับ “โก้”ฆ่าไฮโซเชอรี่