กรุงเทพฯ 8 พ.ย.- “ปวีณา”พาสาว 17 ปีเหยื่อถูก รปภ.ข่มขืนต่อหน้าลูกชายวัยขวบเศษในรีสอร์ท จ.นครนายก ติดตามคดีพร้อมมอบหลักฐานเด็ดให้ตำรวจ ไปสู่ศาลอนุมัติหมายจับ
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พา หญิงสาวอายุ 17 ปี พร้อมพี่สาวอายุ 20 ปี และครอบครัว เข้าติดตามความคืบหน้าคดีกับ พ.ต.อ.ธรรมนูญ บุญเรือง ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน หลังจาก เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายเอ็มซึ่งเป็นหัวหน้างานรักษาความปลอดภัยของบริษัท รปภ และทำความสะอาดแห่งหนึ่ง ออกอุบายว่าจะจ้าง เหยื่อสาวอายุ17 ปี ไปเลี้ยงลูกชายอายุขวบเศษ ที่บ้านในอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก เพื่อเป็นรายได้พิเศษระหว่างที่หญิงสาวถูกพักงานเป็นเวลา 6 วัน เนื่องจากเข้างานสาย โดยในช่วงแรกเหยื่อไม่ยอมไปด้วยแต่ด้วยความที่อยากได้เงินรายได้พิเศษ จึงตัดสินใจ เดินทางไปกับนายเอ็มพร้อมลูกชายวัยขวบเศษ แต่เมื่อไปถึงที่บ้านกลับกลายเป็นรีสอร์ทม่านรูดแห่งหนึ่งที่นายเอ็ม ผู้ต้องหาเปิดห้องไว้โดยผู้ต้องหาสัญญาว่าจะให้ช่วยเลี้ยงลูกชายโดยจะไม่เข้ามายุ่งวุ่นวาย แต่ผ่านไปได้สักพัก ผู้ต้องหากลับมาที่ห้อง อ้างว่าจะมาอาบน้ำเหยื่อสาวเห็นว่าท่าไม่ดีจึงโทรหาเพื่อนให้มาช่วย ก่อนจะขอกลับบ้าน แต่นายเอ็มอ้างว่าจะอาบน้ำและนอนสักพัก ก่อนจะลงมือข่มขืนต่อหน้าลูกชายวัยขวบเศษที่พามาด้วย
จากนั้นนายเอ็มได้พาเหยื่อกลับไปส่งที่กรุงเทพฯโดยนำไปส่งไว้ที่บริเวณถนนพระราม 4 ซึ่งระหว่างที่เดินทางกลับมาพี่สาวได้โทรหานายเอ็มตลอดโดยอ้างว่าไม่ได้อยู่กับน้องสาว เมื่อถูกโทรถามบ่อยเข้าจึงยอมรับสารภาพและบอกที่ที่นำตัวเหยื่อสาวไปส่งให้
เหยื่อสาว ยอมรับ ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับตัวเองเพราะต้องการเข้ามาทำงานหาเงินเรียน และเชื่อใจนายเอ็ม ซึ่งหลังจากเหตุการณ์วันนั้นตนเองก็ยังคงมีอาการหวาดผวา หวาดกลัวและนอนไม่หลับอยู่ตลอดเวลา จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยจับกุมคนร้ายให้ได้
ด้านพี่สาวเล่าว่า ภายหลังจากเกิดเหตุ นายเอ็มก็พยายามโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาหาเหยื่อสาว ขอเจรจาไกล่เกลี่ยโดยจะให้เงินจำนวนหนึ่งเพื่อชดใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ตนเองไม่ยอม จากนั้นนายเอ็มก็ข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ และโทรมาข่มขู่ตลอดว่าตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ ทำให้น้องสาวและเธอ ไม่กล้าเข้าไปที่บริษัทเพื่อรับเงินเดือน
นางปวีณา เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบข้อมูลของเรื่องดังกล่าวก็ได้พยานบุคคลโดยเป็นเพื่อนของผู้เสียหายที่โทรศัพท์เข้าไปหาเหยื่อสาวและได้ยินเสียงร้องไห้และขอความช่วยเหลือส่วนพยานวัตถุ ก็สามารถขอภาพวงจรปิดและพยานหลักฐานอื่นๆที่รีสอร์ทม่านรูดมาได้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดส่งให้ กับชุดสืบสวนสอบสวนของ สน.ปทุมวัน เพื่อใช้ประกอบในการขออำนาจศาลออกหมายจับและดำเนินคดีกับนายเอ็มแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ธรรมนูญ เปิดเผยว่า ภายหลังจากได้ข้อมูลจากมูลนิธิปวีณา ได้ให้พนักงานสอบสวนนำพยานหลักฐานทั้งหมดไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับนายเอ็มในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา, อนาจาร หญิงอายุ 15 ปีขึ้นไป , และพรากผู้เยาว์ ซึ่งศาล วิเคราะห์จากพยานหลักฐานแล้วได้อนุมัติหมายจับให้ ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างการลงพื้นที่ไปติดตามจับกุมตัวนายเอ็มมาดำเนินคดี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยว่าขณะนี้นายเอ็มยังอยู่ในพื้นที่ หรือมีการหลบหนีไปยังจังหวัดอื่นแล้ว มั่นใจจะสามารถติดตามตัวนายเอ็มมาดำเนินคดีได้ .-สำนักข่าวไทย