ญี่ปุ่น 7 พ.ย. – รองนายกรัฐมนตรีสั่ง ธ.ก.ส. เร่งเครื่องปฏิรูปภาคเกษตร หนุนผู้ประกอบการสมาร์ทฟาร์เมอร์ 4.0 ดึงบีโอไอส่งเสริมการลงทุนภาคเกษตร แนะร้านสะดวกซื้อ Tsuruha ลงทุนศูนย์การค้าขนาดเล็กชานเมืองรอบกรุงเทพฯ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะทีมไทยแลนด์ เดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น ระหว่าง 7-10 พ.ย. ได้หารือกับผู้บริหาร บริษัท YANMAR AGRISOLUTION Center ร้านจำหน่ายเวชสำอางใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มอบหมายให้ผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ศึกษาแนวทางส่งเสริมภาคเกษตรไทยก้าวไปสู่เกษตร 4.0 โดยเฉพาะการส่งเสริมสมาร์ทฟาร์เมอร์ และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พร้อมให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและสิทธิประโยชน์ด้านอื่นเพิ่มเติม เนื่องจากภาคเกษตรไทยเป็นพื้นฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจในต่างจังหวัด จึงต้องการให้ดึงมหาวิทยาลัยเข้ามาช่วยพัฒนาและยกระดับภาคเกษตร โดยมีนักลงทุนต่างชาติ เช่น ยันม่าของญี่ปุ่นเข้าไปร่วมพัฒนาเทนโนโลยีการเกษตร
“เครื่องมือเครื่องจักรทางการเกษตรของไทยยังมีราคาแพง จึงต้องการให้ ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรน หรือหาแนวทางให้นำเครื่องจักรเปิดให้เกษตรกรเช่าสำหรับประกอบอาชีพ เนื่องจากขณะนี้การเกษตรสมัยใหม่ใช้เทคโนโลยีพัฒนาอย่างไร เช่น การใช้โดรนภาคเกษตร เพื่อประหยัดต้นทุนแรงงาน และลดปัญหาการสัมผัสสารเคมีของเกษตรกร หากผลิตออกมาสู่ตลาดจำนวนมาก และใช้กันอย่างแพร่หลายจะทำให้ราคาโดรน หรือสินค้าเทคโนโลยีเกษตรมีราคาถูกลงเกษตรกรรายย่อยเข้าถึงง่ายขึ้น” นายสมคิด กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมคิด ได้ทดลองขับรถจักรทางการเกษตรแบบซิมูเลเตอร์ (SIMULATOR) และทดลองขับรถในแปลงเกษตรจำลอง การบังคับผ่านดาวเทียม และจากไอแพทรีโมท รวมทั้งชมเครื่องปลูกพืช เนื่องจากการทำเกษตรสมัยใหม่ของญี่ป่น ขณะนี้ต้องใช้เครื่องจักรเข้ามาทดแทนแรงงานต้นทุนสูง และเพื่อความสะดวกในภาคเกษตร จึงต้องเร่งพัฒนาสมาร์ทฟาร์เมอร์ของไทยให้ก้าวทันเทคโนโลยี นอกจากนี้ ยังชักชวนผู้บริหารบริษัท YANMAR ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งลงทุนเครื่องมือเครื่องจักรทางการเกษตรในประเทศไทยมานานกว่า 40 ปี ขยายการลงทุนเพิ่มเติมผ่านการพัฒนาเครื่องมือทางการเกษตร เช่น เครื่องตัดอ้อย เกี่ยวข้าว แทร็กเตอร์อัจฉริยะ เพื่อสร้างศูนย์เรียนรู้ร่วมกับไทยพัฒนาด้านการเกษตร หลังใช้ไทยเป็นการฐานการผลิตเพื่อการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
นายสมคิด พร้อมคณะยังเดินทางเยี่ยมชมบริษัท Tsuruha Holding Inc. ผู้ให้บริการศูนย์การค้าขนาดเล็ก (Community Mall) จำหน่ายสินค้าของใช้ทั่วไปมีสาขาในญี่ปุ่น 2,100 สาขา และขยายการลงทุนในประเทศไทย 21 สาขา อนาคตเตรียมขยายการลงทุนสาขาในประเทศไทยเพิ่มเติม เพื่อกระจายออกไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากร้าน Tsuruha (ร้านสึรุฮะ) เน้นพื้นที่ห้างขนาดกลาง 1,500 ตารางเมตร แนะนำให้นักลงทุนญี่ปุ่นขยายการลงทุนในชานเมืองรอบกรุงเทพฯ เนื่องจากแหล่งช้อปปิ้งมอลล์ของไทยกำลังเกิดขึ้นอย่างมาก จึงหวังต่อยอดต้องการให้นำสินค้าโอทอป สินค้าวิสาหกิจชุมชนของไทย หวังให้เป็นช่องทางในการจำหน่าย เพื่อเรียกลูกค้าไทยเข้าร้านญี่ปุ่นเพิ่มเติม เพราะช่วงนี้ราคาที่ดินของไทยยังไม่สูงมากนักเป็นโอกาสเหมาะสำหรับการลงทุนในประทเศไทย โดยมีบีโอไอรับพิจารณาแนวทางส่งเสริมการลงทุน .-สำนักข่าวไทย