กรุงเทพฯ 30 ก.ย. -“เผ่าภูมิ” เผยแจกเงิน 10,000 บาท ทำยอดกดเอทีเอ็ม ธ.ก.ส.เพิ่มขึ้น 18 เท่า ยันกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง ยังไม่คุยหั่นเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 เหลือ 5,000 บาท รอน้ำท่วมคลี่คลาย ย้ำจุดยืน Virsual Bank ไม่จำกัดจำนวน
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 วันนี้เป็นวันสุดท้าย ในการโอนเงิน 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มคนพิการ ว่า ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ยังมีกลุ่มเปราะบางประมาณ 200,000 ราย ที่ยังไม่ได้รับเงินเข้าบัญชี เนื่องจากบัญชีเหล่านี้ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ แนะนำให้ไปผูกพร้อมเพย์ที่สาขาธนาคาร หรือตู้เอทีเอ็ม ก่อนที่รัฐบาลจะโอนย้ำให้อีก 2 ครั้ง ในวันที่ 22 ตุลาคม, 22 พฤศจิกายน และ 22 ธันวาคม 67
สำหรับกลุ่มคนพิการบางส่วนที่ตกหล่นไม่ได้รับเงิน 10,000 บาท ต้องประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อดำเนินการอัพเดตบัญชี ซึ่งยังมีเวลาอีก 3 เดือน
ทั้งนี้เชื่อว่าการแจกเงิน 10,000 บาท ในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง เห็นได้จากยอดการกดเอทีเอ็มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มียอดการกดเอทีเอ็มเพิ่มขึ้นถึง 18 เท่า แสดงให้เห็นว่าสามารถช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางได้ ขณะที่ตามตลาดในชุมชนคึกคักขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเฟส 2 อาจเหลือ 5,000 บาทนั้น นายเผ่าภูมิ ย้ำว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการหารือกันอย่างเป็นทางการในที่ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเพียงข้อเสนอในสังคม ขออย่าเพิ่งด่วนสรุป ให้รอที่ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน ซึ่งจะมีการนัดประชุมเร็วๆ นี้ โดยในที่ประชุมจะมีการพูดคุยกันถึงภาพรวมภาวะเศรษฐกิจ ประเมินผลจากมาตรการกระตุ้นเฟสแรก และพิจารณาว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจในเฟสต่อไป ควรจะกระตุ้นแบบไหน ช่วงไหน จำนวนเงินเท่าไร ถึงจะเหมาะสม รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม โจทย์ใหญ่ในการประชุมครั้งนี้คือ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ ต้องมองภาพเศรษฐกิจให้ตรงกันก่อน จึงจะสรุปได้ว่าเศรษฐกิจต้องการการกระตุ้นแบบใด ซึ่งยอมรับว่าทุกวันนี้ยังมองไม่ตรงกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะมีนัดหารือพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าด้วย เป็นการหารือถึงมุมมองเศรษฐกิจให้มีความตรงกัน รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยและกรอบเงินเฟ้อ
นายเผ่าภูมิ ยังกล่าวถึงการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา หรือ Virsual Bank ที่มีผู้ยื่นขออนุญาตใบอนุญาต จำนวน 5 ราย โดยย้ำจุดยืนว่ากระทรวงการคลัง ไม่เห็นด้วยกับการจำกัดจำนวน หากผู้ยื่นคำขออนุญาตมีคุณสมบัติผ่านทั้งหมด ก็พร้อมที่จะให้จัดตั้ง Virsual Bank ได้ ซึ่งต้องรอ ธปท.พิจารณาคุณสมบัติก่อนส่งมากระทรวงการคลังเพื่ออนุมัติการจัดตั้ง ซึ่ง ธปท.มีเวลาพิจารณา 6 เดือน แต่ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้ดำเนินการให้เร็วกว่านั้น. -516-สำนักข่าวไทย