เมืองทอง 3 พ.ย.-“พล.อ.ประยุทธ์” ทวงสัญญาสหรัฐ ย้ำนำเข้าเติบโตกว่าเท่าตัวในรอบ 2 ปี เดินหน้าอุทธรณ์จีเอสพี โต้ข่าวลืออินเดียถอนตัวสมาชิก RCEP ยังอยู่ครบ ไม่ถอดใจ
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการหารือระหว่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายวิลเบอร์ รอสส์ (Wilbur Ross) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา ว่า ได้พูดคุยประเด็นการพักสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) บางส่วนแก่ไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลห่วงกังวลเรื่องผลกระทบต่อภาคเอกชนและสาธารณชน แต่เข้าใจดีเรื่องกติกาของสหรัฐ อย่างไรก็ตามในฐานะมิตรอันใกล้ชิด ขอให้สหรัฐพิจารณาทบทวนอีกครั้ง ซึ่งรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์สหรัฐ พร้อมเปิดให้มีการเจรจาทบทวนระหว่างกันก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ในอีก 6 เดือนข้างหน้า
“ยังสามารถพูดคุยกันได้ ยังไม่ถึงขั้นส่งผู้แทนไทยไปสหรัฐอเมริกา โดยนายกรัฐมนตรีกำลังเตรียมข้อมูลเพื่อขออุทธรณ์สินค้าบางรายการ ทั้งนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพานิชย์สหรัฐ ย้ำว่าตัวเลขจีเอสพีเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับตัวเลขทั้งหมด” นางนฤมล กล่าว
ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้ฝากข้อความไปถึงประธานาธิบดีสหรัฐ ผ่านผู้แทนว่า ได้ทำตามสัญญาที่เคยพบกันเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งตัวเลขการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ เติบโตเท่าตัว จึงอยากให้สหรัฐมาลงทุนที่ไทย เหมือนที่เคยคุยกันไว้ อย่างไรก็ตามบรรยากาศการหารือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ไม่ตึงเครียด ไม่มีการหยิบยกประเด็นแบน 3 สารเคมี และเรื่องนำเข้าหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดง แต่ได้หารือการลงทุนด้านต่างๆ
นางนฤมล ยังกล่าวถึงการประชุมRCEP ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปการลงนามข้อตกลงได้ทั้งหมด เพราะยังค้างอยู่อีกเล็กน้อยจาก 20 บท และเชื่อว่าจะแถลงผลได้ในวันพรุ่งนี้ (4 พ.ย.) แต่ยอมรับว่ามีบางข้อจะมีบางประเทศสงวนข้อตกลงไว้ เพื่อกลับไปดูรายละเอียดซึ่งในส่วนของอินเดียนั้น ติดขัดเรื่องการคุ้มครอง เรื่องการลงทุน ซึ่งต้องเข้าใจอินเดียว่าเป็นประเทศที่ตลาดใหญ่ ส่วนจะส่งผลกระทบหากมีการสงวนท่าทีจริงหรือไม่นั้น ย้ำว่าอยู่ระหว่างการหารือว่าจะสามารถรับฟังสาเหตุข้อสงวนของอินเดียได้มากน้อยแค่ไหน แต่ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้กลุ่ม RCEP ยังอยู่ครบทั้ง 16 ประเทศสมาชิก และไม่มีประเทศไหนถอดใจ พร้อมปฏิเสธข่าวลือที่ว่าอินเดียอาจถอนตัว เนื่องจากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้.-สำนักข่าวไทย